Mellieħa กินพื้นที่แผ่นดินใหญ่ทางเหนือของมอลตา และมีอ่าวที่มีชื่อเดียวกัน Mellieħa ได้ชื่อว่ามีสภาพภูมิประเทศเขียวชอุ่มและแนวชายฝั่งคดเคี้ยว ซึ่งทำให้ชายหาดของที่นี่มีความงดงามเป็นอันดับต้นๆ ของเกาะ เมืองนี้มีชีวิตชีวาด้วยเทศกาลและการเฉลิมฉลองแบบดั้งเดิมที่มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 ค้นพบซากปรักหักพังและมรดกทางโบราณคดีที่เปิดเผยให้ทราบเกี่ยวกับประวัติศาสตร์อันน่าค้นหาของ Mellieħa ลองชิมอาหารท้องถิ่นที่ปรุงจากผลผลิตทางการเกษตรสดใหม่บนที่ดินอันอุดมสมบูรณ์ในบริเวณใกล้เคียง
Church of Our Lady of Victory ของ Mellieħa เป็นโบสถ์สไตล์บาโรกอันงามสง่า และด้วยทำเลที่ตั้งอยู่บนยอดเนินเขา ทำให้ที่นี่เป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุดในเมือง โบสถ์นี้ยังเป็นจุดศูนย์กลางของเทศกาลต่างๆ ที่มีระยะเวลา 2 สัปดาห์โดยเริ่มตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน เข้าร่วมงานเฉลิมฉลองทางวัฒนธรรม และรับฟังดนตรีพื้นบ้าน ชมนิทรรศการศิลปะ ดอกไม้ไฟ และพิธีกรรมทางศาสนาต่างๆ
อ่าว Mellieħa เป็นหาดที่ยาวที่สุดในมอลตา และใช้เวลาเดินตามทางลาดลงจากใจกลางเมืองเพียง 15 นาทีก็มาถึง นอนพักผ่อนใต้ร่มบนชายหาด เช่าเตียงชายหาดเพื่อนอนอาบแดด หรือจะสนุกสนานกับการก่อกองทรายกับทั้งครอบครัวก็ได้ ที่นี่มีอุปกรณ์กีฬาทางน้ำให้เช่าสำหรับผู้ที่ต้องการความตื่นเต้นเร้าใจ
เด็กๆ หรือผู้ใหญ่ใจเด็กจะต้องหลงรัก Popeye’s Village ซึ่งเป็นสวนสนุกใน Anchor Bay บ้านไม้หลังเล็กหน้าตาโทรมๆ ใน Popeye’s Village สร้างขึ้นเพื่อเป็นฉากในภาพยนตร์ แต่ปัจจุบันได้กลายมาเป็นสถานที่ซึ่งประกอบด้วยเครื่องเล่นในน้ำ มินิกอล์ฟ และที่แสดงละคร
จากนั้นเดินทางไปที่ Blue Lagoon บนเกาะ Comino ที่อยู่ติดกัน แวะไปดูหอคอย St. Agatha’s ป้อมปราการสมัยศตวรรษที่ 17 ซึ่งคนท้องถิ่นเรียกว่าหอคอยแดงตามสีของหอคอย เดินทางไปที่ Paradise Bay ซึ่งเป็นอ่าวอันงดงามที่ได้รับการปกป้องบนชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะ
Mellieħa ตั้งอยู่ทางใต้ของอ่าว Mellieħa คุณสามารถเดินทางมาที่เมืองนี้ได้อย่างง่ายดายจากเกือบทุกที่บนเกาะ ไม่ว่าจะโดยการขับรถหรือนั่งรถโดยสาร เพลิดเพลินกับสภาพภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียนของ Mellieħa แล้วออกสำรวจตัวเมือง สภาพแวดล้อมอันเขียวชอุ่ม และอาหารพื้นเมืองแสนอร่อย