สวนพฤกษศาสตร์ลาลบากแต่เดิมนั้นสร้างขึ้นในปี 1760 โดยเป็นพื้นที่สงวนขนาด 160,000 ตารางเมตร สำหรับ ไฮเดอร์ อาลี ผู้ปกครองชาวไมซอร์ ตลอดระยะเวลาหลายศตวรรษที่ผ่านมา สวนแห่งนี้ได้รับการขยับขยาย และมีการปลูกพืชหลากหลายสายพันธุ์ที่นำเข้าจากทั่วโลก สวนแห่งนี้จึงได้กลายมาเป็นสถานที่สำคัญของเมืองที่ได้รับการขนานนามว่า เมืองแห่งสวน แห่งนี้
สวนแห่งนี้มีทางเข้าสี่ทางผ่านประตูสี่แห่ง ซึ่งต่างชี้ไปยังแต่ละทิศของเข็มทิศ ประตูทิศเหนือนั้นถือกันว่าเป็นประตูหลัก โดยจะนำไปสู่เครือข่ายเส้นทางที่มีป้ายนำทางเป็นอย่างดีผ่านส่วนต่างๆ ของสวน
ในปัจจุบัน สวนมีพื้นที่กว่า 800,000 ตารางเมตร ซึ่งได้รับการจัดทำเป็นสนามหญ้าและพุ่มดอกไม้อันงดงาม นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นไปตามเส้นทางที่ขนาบข้างด้วยต้นไม้และประดับด้วยน้ำพุ และหยุดพักข้างสระบัวอันแสนสงบ
สวนพฤกษศาสตร์ลาลบากมีพันธุ์ไม้ที่แปลกและหายากมากมาย โดยมีการจัดแสดงมากกว่า 1,800 สายพันธุ์ ซึ่งรวมถึงดอกไม้และต้นไม้หายากจากยุโรปและตะวันออกกลาง พันธุ์ไม้ส่วนใหญ่มีการติดป้ายเพื่อให้สามารถระบุชนิดได้ง่าย นอกจากนี้ อย่าลืมชมต้นไม้ที่มีอายุมากกว่า 100 ปีในสวนแห่งนี้
ไปที่เรือนกระจกลาลบากเพื่อชมการจัดแสดงกล้วยไม้และดอกทิวลิปอันงดงาม อาคารกระจกขนาดใหญ่สมัยปลายศตวรรษที่ 19 แห่งนี้ เป็นผลงานชิ้นเอกของสวน และถอดแบบมากจากวังกระจกของอังกฤษ ลองวางแผนการเยี่ยมชมให้ตรงกับการจัดแสดงดอกไม้ปีละสองครั้ง ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนมกราคมและสิงหาคม โดยมีการจัดแสดงดอกไม้ที่มีสีสันอันงดงามตามธรรมชาติของสวนแห่งนี้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ การจัดแสดงในวันสาธารณรัฐนั้นขึ้นชื่อในเรื่องการถอดแบบสถานที่สำคัญที่มีชื่อเสียงด้วยดอกไม้
ที่ใจกลางสวนแห่งนี้ เป็นที่ตั้งของหอเกมเปโกฑา ซึ่งเป็นสถานที่รำลึกถึงผู้ก่อตั้งบังคาลอร์ ฮิริยะเกมเปโกฑา ในบริเวณใกล้เคียง นักท่องเที่ยวสามารถชมสวนกุหลาบ ถ่ายภาพนาฬิกาดอกไม้ และชมฟอสซิลต้นไม้แห่งลาลบากที่มีอายุกว่า 20 ล้านปี ในยามเย็น นักท่องเที่ยวสามารถใช้เวลาข้างทะเลสาบลาลบากอันเงียบสงบ ซึ่งเป็นสถานที่ทำรังของนกน้ำท้องถิ่นหลากหลายสายพันธุ์
สวนพฤกษศาสตร์ลาลบาก ตั้งอยู่ทางเหนือถัดจากใจกลางเมืองบังคาลอร์ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาที่นี่ได้ด้วยการนั่งแท็กซี่ในระยะทางสั้นๆ จากใจกลางเมือง หรือขับรถแล้วจอดรถในที่จอดรถที่มีจัดไว้ให้ สวนแห่งนี้นี้เปิดตั้งแต่เช้าตรู่จนถึงช่วงเย็น โดยมีการคิดค่าเข้าชม
