La Crosse ตั้งอยู่ระหว่างริมฝั่งแม่น้ำมิสซิสซิปปีกับแนวผาสูงชัน เมืองนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยธรรมชาติที่งดงามและกิจกรรมกลางแจ้ง แต่ตัวเมืองก็น่าสนใจเช่นกันด้วยกิจกรรมสำหรับเด็กและวัฒนธรรม
วิธีที่ดีในการทำความรู้จักกับเมืองนี้คือการเดินขึ้นไปบนยอด Grandad Bluff ซึ่งเป็นเขาลาดชันที่มองเห็นได้จากเกือบทุกส่วนในเมือง จากบนยอดเขา คุณจะได้เห็นทิวทัศน์ของตัวเมือง แม่น้ำมิสซิสซิปปี ตลอดจนรัฐวิสคอนซิน มินนิโซตา และไอโอวา เดินขึ้นไปบนยอดเขาโดยใช้เส้นทางที่มีให้หลายสาย
นอกจากนี้ยังสามารถเดินเลียบไปตามเส้นทางในป่าและพื้นที่เปิดโล่งของ Riverside Park หรือหาทำเลสบายๆ นั่งดูเรือที่ผ่านไปมาในแม่น้ำ
มาเป็นส่วนหนึ่งของทิวทัศน์ในแม่น้ำด้วยการล่องเรือ La Crosse Queen เรือนี้จำลองมาจากเรือจักรไอน้ำที่เคยมีอยู่มากมายในแม่น้ำมิสซิสซิปปีช่วงปลายศตวรรษที่ 19 หรือจะเดินทางผ่านลำน้ำสาขาของแม่น้ำสายนี้ไปกับทัวร์อนุรักษ์ธรรมชาติก็ได้
สำหรับกิจกรรมสนุกสนานในครอบครัว พาเด็กๆ ไปเที่ยวที่พิพิธภัณฑ์เด็ก La Crosse จากนั้นจึงไปที่สวน Myrick ซึ่งมีสนามเด็กเล่น Kids Coulee ในนี้มีโครงไม้ให้ปีนเล่น ชิงช้า เขาวงกต และอุโมงค์ เด็กที่ร่างกายพิการก็สามารถสนุกกับเครื่องเล่นได้เช่นกัน
ไปเยี่ยมชมวิหารพระแม่แห่งกวาเดอลูปซึ่งเป็นสถานที่แสวงบุญของชาวคาธอลิกที่สำคัญ แม้จะไม่ใช่ชาวคาทอลิก คุณก็สามารถเข้าไปหาความสงบและเที่ยวชมโบสถ์เพื่อดูภาพวาดและประติมากรรมได้
ถ้าคุณมาเที่ยว La Crosse ในฤดูหนาว ก็ไม่จำเป็นต้องอยู่แต่ในร่มเมื่อหิมะตก คุณสามารถออกไปขับรถลุยหิมะบนเส้นทางยาว 966 กิโลเมตร หรือเล่นสกีวิบากที่ Drugan’s Castle Mound ลองเดินลุยหิมะและตกปลาในน้ำแข็งที่ Eagle Bluff Environmental Learning Center
เมือง La Crosse สามารถเดินทางมาได้ทั้งทางรถโดยสาร รถยนต์ และรถไฟ หรือจะบินมาลงที่สนามบินภูมิภาค La Crosse ซึ่งอยู่บน French Island และมีสะพานเชื่อมต่อกับแผ่นดินใหญ่ก็ได้ คุณควรจัดกระเป๋าเพื่อเตรียมพร้อมรับกิจกรรมกลางแจ้ง ไม่ว่าจะมาฤดูใดก็ตาม