เกาะกูลั่งอวี่เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านสไตล์โคโลเนียลที่เปี่ยมด้วยมนต์เสน่ห์ อากาศบริสุทธิ์และร่มเงาของต้นไทร จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยความงดงามและเป็นที่นิยมหากได้มาเยือนเซี่ยเหมิน เดินชมตามถนนที่ปราศจากรถรา แล้วหยุดพักดื่มชานมที่ร้านอาหารเล็กๆ ฟังเสียงเปียโนเพราะๆ ที่มักจะมีคนเล่นให้ได้ยินตลอดเส้นทาง
เกาะแห่งนี้ทำหน้าที่เป็นเกาะสัมปทานสำหรับต่างชาติให้กับ เซี่ยเหมินจนกระทั่งสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มีผู้อยู่อาศัยจากราว 14 ประเทศเข้ามาตั้งรกรากในระหว่างศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 ลองสังเกตอาคารสไตล์โคโลเนียลที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นสิ่งเตือนใจถึงประวัติศาสตร์ของเกาะนี้ได้เป็นอย่างดี
เกาะเล็กๆ แห่งนี้มีขนาดไม่เกิน 2 ตารางกิโลเมตร เหมาะกับการเดินเล่นและเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศสบายๆ ถนน Fuzhou Lu และ Guxin Lu ประดับประดาไปด้วยดอกไม้สวยๆ ตลอดปี และถ้าอยากชมบรรยากาศที่เงียบสงบ ให้เดินไกลออกไปจากจุดที่เป็นท่าเรือเฟอร์รีซึ่งมักจะเต็มไปด้วยผู้คน
จากท่าเรือ ไปกันต่อทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ จะพบกับโรงพยาบาล Japanese Bo’ai เก่าที่มีอายุย้อนไปในช่วงปี 1936 เดินขึ้นไปยังถนน Lujiao Lu เพื่อชมสถานกงสุลเก่าแก่ของญี่ปุ่นและ Ecclesia Catholica ที่ตั้งขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ไม่ควรพลาดชม Guancai Lou ที่พักอาศัยเก่าที่ออกแบบมาในสไตล์ดัตช์ สร้างขึ้นเมื่อปี 1931 และเหมือนกับอาคารหลายๆ แห่งบนเกาะนี้ที่ไม่ได้รับการรักษาอย่างดีเท่าไรนักในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ความงามตามสภาพอากาศก็ยังเผยมาให้เห็น รวมถึงลักษณะเด่นตามแบบฉบับดั้งเดิมด้วย
มาดูกันว่าทำไมเกาะกูลั่งอวี่ถึงได้มีชื่อเล่นว่า “เกาะเปียโน” ด้วยการแวะไปชมพิพิธภัณฑ์แปลกๆ ที่จะพบได้ที่สวน Shuzhuang พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เก็บรวบรวมเปียโนแห่งประวัติศาสตร์มากกว่า 30 หลังจากทั่วโลกโดยชาวกูลั่งอวี่ที่ชื่อ Hu Youyi มองหาเปียโน American Steinway & Sons สมัยศตวรรษที่ 19 และเปียโนที่ฉาบด้วยทอง
ไปกันต่อทางตอนกลางค่อนใต้ของเกาะ จะพบกับ Sunlight Rock ซึ่งเป็นจุดที่สูงที่สุดของเกาะ เดินขึ้นไปบนยอดเขาสูง 93 เมตร แล้วหยุดอ่านคำจารึกโบราณตลอดเส้นทางโขดหิน บนยอดเขา คุณจะมองเห็นวิวของเกาะทั้งเกาะ รวมถึงน่านน้ำไกลออกไปยังเซี่ยเหมิน
เกาะกูลั่งอวี่ตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งเซี่ยเหมิน สามารถนั่งเรือเฟอร์รีมาได้จากท่าเรือเฟอร์รีเซี่ยเหมินโดยใช้เวลาไม่นาน นักท่องเที่ยวที่ไม่ใช่ชาวจีนสามารถเดินทางมาได้จากท่าเรือสำราญนานาชาติ Dongdu แนะนำให้มาช่วงกลางสัปดาห์เพื่อหลีกเลี่ยงฝูงชน