โบสถ์เซนต์แมรีเป็นคริสต์ศาสนสถานในสมัยศตวรรษที่ 19 ที่สร้างในรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิก ยอดแหลมที่สูงชะลูดและกำแพงหินทรายทำให้โบสถ์หลังนี้มีความโดดเด่นจากโบสถ์หลังอื่นในย่าน Lake District ใช้ช่วงเวลายามบ่ายเงียบ ๆ เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของโบสถ์เซนต์แมรี และชื่นชมผลงานศิลปะที่ประดับตกแต่งไว้ภายในโบสถ์
ชื่นชมสถาปัตยกรรมอันงามสง่าที่มีความฟู่ฟ่าน้อยกว่าสถาปัตยกรรมในยุควิคตอเรียอื่น ๆ ส่วนมาก ถ่ายภาพโบสถ์พร้อมกับยอดสูงลิบที่มีฉากหลังเป็นผืนป่าและตึกหมู่บ้านทรงโบราณ หลงเสน่ห์กับแสงสลัวสีส้มของยอดโบสถ์เมื่อยามที่จุดไฟในค่ำคืน เดินตามทางที่ลัดเลาะไปสู่สุสานและนำคุณไปสู่ตัวโบสถ์
เข้าประตูหลักด้านหน้า เดินไปตามทางระหว่างที่นั่งในโบสถ์ เพื่อสำรวจผลงานศิลปะภายใน จุดเด่นของโบสถ์จุดหนึ่ง คือ หน้าต่างกระจกสีที่สรรค์สร้างโดยศิลปินในศตวรรษที่ 19 อย่างนายเฮนรี ฮอลิเดย์ ศึกษาทำความเข้าใจความหมายของหน้าต่าง และลักษณะเด่นอย่างอื่นในโบสถ์จากแผ่นพับที่มีให้หยิบฟรี
ตื่นตาตื่นใจกับจิตรกรรมฝาผนังขนาดใหญ่ที่แสดงภาพวาดงานพิธีแบกต้นกก (Rushbearing) โดยในภาพวาดนั้นเป็นภาพวาดของชาวบ้าน 62 คนที่เข้าร่วมในพิธีกรรมในสมัยกลางที่น่าสนใจ ซึ่งในพิธีนี้ชาวบ้านจะเก็บต้นหญ้าขนาดยาว และนำมาไว้ที่โบสถ์ เพื่อเป็นการทำความสะอาดและปรับปรุงพื้นดินให้สดใหม่อีกครั้งหนึ่ง
ให้สังเกตภาพแกะสลักนักบวชชาวเหนือ 14 รายบนที่นั่งของคณะนักร้องประสานเสียง อย่าลืมเดินลัดเลาะไปยังมหาวิหารเวิร์ดสเวิร์ธ (Wordsworth Chapel) เพื่อไปเชยชมอ่างน้ำมนต์หินทรายที่มีอายุมานานกว่าหลายศตวรรษ มองหาป้ายหินที่อุทิศให้กับนายวิลเลียม เวิร์ดสเวิร์ธ นักประพันธ์ที่ดีที่สุดคนหนึ่งของอังกฤษ ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าโคลงกลอนของเขาได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Lake District
เซอร์จอร์จ กิลเบิร์ต สก็อตต์ เป็นสถาปนิกที่ออกแบบโบสถ์เซนต์แมรีแห่งนี้ ซึ่งใช้เวลาในการสร้างทั้งหมด 4 ปีนับตั้งแต่ปี 1850 มาเยี่ยมชมโบสถ์ได้ทุกวันในช่วงกลางวัน และไม่เสียค่าเข้าชม
โบสถ์เซนต์แมรีตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือจากเมืองแอมเบิลไซด์ โดยใช้เวลาเดิน 10 นาทีจากตัวเมืองผ่านร้านอาหารต่าง ๆ และสนามมินิกอล์ฟไวท์ แพลตส์ (White Platts Recreation Ground) ก่อนถึงโบสถ์ โบสถ์เซนต์แมรีอยู่ทางทิศตะวันออกของแม่น้ำโรเธ่ย์อันงดงาม และทางทิศเหนือของทะเลสาบวินเดอร์เมียร์อันกว้างใหญ่