หลีกหนีไปพักผ่อนที่ชายฝั่งอันงดงามทางตอนเหนือของเวลส์ในเมืองบังกอร์ที่เปี่ยมไปด้วยวัฒนธรรมและนักศึกษามากมาย แม้ว่าจะติดอันดับหนึ่งในเมืองที่เล็กที่สุดของสหราชอาณาจักร แต่บังกอร์เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และกิจกรรมต่างๆ อีกทั้งยังเป็นประตูสู่เทือกเขาและทะเล ท่องเที่ยวระหว่างสถานที่สำคัญต่างๆ และใช้เวลาชื่นชมกับทัศนียภาพของเกาะ แองเกิลซี ซึ่งอยู่อีกฟากหนึ่งของช่องแคบเมไน
สำรวจ มหาวิหารบังกอร์ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนอารามเก่าแก่จากศตวรรษที่ 6 ซึ่ง St. Deiniol เป็นผู้สร้างขึ้น ซึ่งนั่นเป็นจุดที่เมืองถือกำเนิดขึ้น แม้ว่าบังกอร์จะยังคงเพียงที่ตั้งถิ่นฐานชาวประมงเล็กๆ จนกระทั่งถึงศตวรรษที่ 19 ก็ตาม เมืองนี้เจริญรุ่งเรืองเมื่อมีการสร้างมหาวิทยาลัยขึ้น และหินชนวนในท้องถิ่นถูกส่งไปทางเรือทั่วโลก
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเมืองที่ Storiel ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์และแกลเลอรี่ที่จัดแสดงเกี่ยวกับเขตนี้โดยเฉพาะ ชมสิ่งจัดแสดง อาทิ เฟอร์นิเชอร์และสิ่งทอของเวลส์ ธรณีวิทยาท้องถิ่น และอาวุธโรมัน
ชมสถานที่น่าสนใจต่างๆ ภายในวิทยาเขตของ มหาวิทยาลัย บังกอร์ เช่น คอลเลกชันต่างๆ ใน พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ Brambell ที่เปิดให้เข้าชมเฉพาะในบางโอกาสเท่านั้น แวะเยือนศูนย์ศิลปะที่สง่างามและทันสมัยอย่างPontio ที่ดำเนินงานโดยมหาวิทยาลัย ซึ่งสถานที่นี้มีจัดโปรแกรมที่หลากหลาย อาทิ ละครอังกฤษและเวลส์ บัลเล่ต์ ภาพยนตร์ และเพลงตลอดทั้งปี
อย่าลืมพกกล้องติดตัวไปเพื่อถ่ายภาพเกาะแองเกิลซี เดินตามทางเดินรอบ แคมป์ โรมัน ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งถิ่นฐานของชาวนอร์มัน เพื่อชมทัศนียภาพริมชายฝั่งอันกว้างไกล เดินเตร่ไปตาม Garth Pier สิ่งปลูกสร้างจากศตวรรษที่ 19 ที่มีความยาวถึง 457 เมตรไปจนถึงช่องแคบเมไน
นอกใจกลางเมือง แวะเยือน ปราสาท Penrhyn ที่สวยสะดุดตา ซึ่งสร้างขึ้นในสไตล์นอร์มันยุคศตวรรษที่ 19 โดยนายทาสคนหนึ่งที่ต้องการแสดงออกถึงความมั่งคั่ง จากนั้นเดินเข้าไปภายในห้องโถงเพื่อชมพิพิธภัณฑ์ทางรถไฟอุตสาหกรรม
นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมายังบังกอร์ได้ง่ายโดยใช้เครือข่ายเส้นทางรถไฟอังกฤษ เนื่องจากเป็นศูนย์รวมการขนส่งทางตอนเหนือของเวลส์ ขึ้นรถไฟมาที่เมือง จากนั้นออกสำรวจด้วยการเดินเท้าเพื่อชื่นชมสถานที่สำคัญทั้งหมด ตอนเหนือของเวลส์มีอากาศอบอุ่นตลอดทั้งปี แต่ขอแนะนำให้มาในฤดูใบไม้ผลิหรือฤดูร้อนเพื่อใช้เวลาท่องเที่ยวหลายวันได้อย่างสะดวก