จากเมืองเปรูจา ใช้เวลาสักหนึ่งวันในการเที่ยวสำรวจเมืองสเปลโล (Spello) ในบริเวณใกล้เคียง ซึ่งเป็นหมู่บ้านยุคกลางที่ถือกันว่าสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในอุมเบรีย เมืองแห่งนี้มีวัฒนธรรมอันคึกคัก และยังเป็นสถานที่จัดงานเทศกาลที่ได้รับความนิยมสองงาน อีกทั้งยังมีการจัดแสดงคอนเสิร์ตและกิจกรรมต่างๆ อยู่เสมอ นักท่องเที่ยวสามารถชื่นชมถนนที่เรียงรายไปด้วยดอกไม้อันงดงามและสถาปัตยกรรมที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ซึ่งรวมถึงโบสถ์และจัตุรัสต่างๆ หรือเดินขึ้นภูเขาเพื่อชมทิวทัศน์ของย่านใจกลางเมืองทางประวัติศาสตร์และพบกับซากปรักหักพังสมัยโรมัน
ลองลงทะเบียนทัวร์เดินชมเพื่อให้สามารถเที่ยวได้อย่างไม่หลงทาง เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์อันช้านานหลายศตวรรษของสเปลโลขณะเดินผ่านโบราณสถานต่างๆ อย่าลืมแวะชมโบสถ์สมัยยุคกลาง ซันตา มาเรีย มัจโจเร ที่อยู่ใกล้กับจัตุรัสหลัก โบสถ์แห่งนี้มีประตูทางเข้าแบบโรมาเนสก์และหอระฆังสมัยศตวรรษที่ 13 โบสถ์อีกแห่งหนึ่งที่น่าแวะชมคือ ซันตา มาเรีย ดี วัลเลโกลรีอา ที่ตั้งอยู่บนยอดเขาอย่างสง่างาม
ขณะเดินเข้าใกล้ขอบของเมือง คุณจะพบกับกำแพงเมืองที่ได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดีที่เคยมีหน้าที่ป้องกันเมืองสเปลโลจากการรุกรานในอดีต ประตูสมัยโรมันสามแห่งยังคงสามารถพบเห็นได้ในทุกวันนี้ โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินผ่านประตูออกนอกเมืองเพื่อถ่ายภาพชนบทของอุมเบรียที่มีความงดงามน่าทึ่ง จากนั้นลองปีนขึ้นสู่ยอดเขาริมเมืองเพื่อชมทัศนียภาพอันงดงาม ที่ยอดเขายังมีเสาโค้งสมัยโรมันตั้งอยู่อีกด้วย
ลองมาเยือนสเปลโลในระหว่างช่วง Corpus Domini ซึ่งมักจะอยู่ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมหรือต้นเดือนมิถุนายน เพื่อชมเทศกาล L’Infiorata (พรมดอกไม้) ถนนต่างๆ จะปูไปด้วยภาพวาดด้วยกลีบดอกไม้อันงดงามที่ทำจากดอกไม้ที่เด็ดด้วยมือโดยชาวท้องถิ่นจากภูเขาโดยรอบ งานประจำปีนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกและไม่ควรพลาด
มาเยือนเมืองในเดือนสิงหาคมเพื่อเข้าร่วมเทศกาลศิลปะและวัฒนธรรม ซึ่งมีการจัดคอนเสิร์ตกลางแจ้งและการจัดแสดงต่างๆ ทั่งทั้งเมือง ลองแวะที่คาเฟ่เพื่อชิมกรอสตาตา ซึ่งเป็นทาร์ตขนมอบแบบอิตาลีดั้งเดิม และรับประทานร่วมกับปัสซีโต หรือไวน์ของหวานอันหอมหวานของสเปลโล
สเปลโลอยู่ห่างจากเปรูจาเพียง 30 กิโลเมตร และสามารถเดินทางมาถึงได้ด้วยรถยนต์หรือรถโดยสาร หากคุณพักในภูมิภาคนี้ ให้ลองเยี่ยมชมหมู่บ้านยุคกลางในบริเวณใกล้เคียง ได้แก่ กอลเลปีโน และซัน โจวันนี