โบสถ์ Gesu Nuovo หรือ New Jesus เคยเป็นพระราชวังมาก่อนในปี 1470 เหล่าสมาชิกโรมันคาทอลิกนิกายพระเยซูอิตได้ปรับเปลี่ยนจากพระราชวังให้มาเป็นโบสถ์ แต่ยังคงสภาพผนังของพระราชวังในสมัยนั้นไว้อยู่ หอสวดมนต์และผลงานทางศิลปะหลายๆ ชิ้นถูกนำเข้ามาเพิ่มเติมตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ยิ่งทำให้ส่วนผสมของสถาปัตยกรรมและศิลปะรวมตัวกันได้อย่างดี ทุกวันนี้ คุณจะได้พบสถาปัตยกรรมแบบกอธิคและบาโรกรวมถึงตัวอย่างของผลงานศิลปะเชิงศาสนาสไตล์อิตาเลียน เช่น ภาพวาดบนฝาผนังและประติมากรรมต่างๆ
เดินเข้าไปชมการตกแต่งภายในของโบสถ์ Gesu Nuovo และเดินเลยช่องทางเดินที่มีทั้งหมด 3 แห่งเพื่อไปชมแท่นบูชาหินอ่อน หรือจะลองนั่งลงบริเวณด้านหลังและแหงนมองขึ้นไปดูโดมก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ ความประณีตของภาพวาดสีทองที่อยู่บนผนังเปรียบได้กับจิตรกรรมฝาผนังเชิงศาสนาชิ้นที่ดีที่สุดในนครวาติกัน ภาพเขียนบนฝาผนัง ประติมากรรมและภาพวาดอันน่าทึ่งที่อยู่รอบๆ โบสถ์นี้ล้วนแล้วแต่บอกเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับศาสนา
ส่วนชิ้นงานบริเวณหลังคาโค้งของโบสถ์โดยศิลปินชาวอิตาเลียนนามว่า Massimo Stanzione คือการเดินตามรอยชีวิตของพระแม่มารีย์ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีประติมากรรมนูนของเลโอนาร์โด ดาวินชี กับผลงาน Last Supper อีกด้วย ส่วนที่แท่นบูชา คุณจะได้พบกับโกศที่ทำจากทองสำริด ภายในบรรจุอัฐิของ St. Joseph Moscati แพทย์ชาวเนเปิลส์ที่เสียชีวิตในปี 1927 และได้รับการยกย่องให้เป็นนักบุญในปี 1997 ห้องของ Moscati สะท้อนให้เห็นการทำงานของแพทย์ผ่านภาพถ่ายและยังบอกเล่าเรื่องราวของการสร้างความสุขของเขาด้วย
ส่วนรูปปั้น Spire of the Immaculate Virgin นั้นกินพื้นที่ส่วนใหญ่ของจัตุรัสที่ตั้งอยู่ภายนอกโบสถ์ มีความสูง 111 ฟุต (34 เมตร) สร้างแล้วเสร็จในปี 1750 และเป็นการฉลองให้กับการปกป้องชาวเมืองให้รอดพ้นจากการระบาดของกาฬโรค
อย่าลืมแวะเข้าไปเยี่ยมชมหอสวดมนต์รูปแบบต่างๆ อีกหลายห้องภายในโบสถ์ เช่น Chapel of St. Francis Xavier และ Sacred Heart Chapel
โบสถ์ Gesu Nuovo อยู่ห่างจากศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ของเนเปิลส์ไปทางตะวันตกโดยการเดินระยะทางสั้นๆ ส่วนสถานีรถไฟที่อยู่ใกล้ที่สุดคือ Dante ยังมีคาเฟ่และร้านอาหารอีกหลายแห่งในบริเวณลาน Piazza del Gesu Nuovo แวะมาทานอาหารกลางวันหรือจะนั่งจิบกาแฟและมองผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมายังโบสถ์และอาคารต่างๆ ก็เพลินตาไม่น้อย