Chincheros เป็นหมู่บ้านเรียบง่าย ตั้งอยู่บนที่สูงเหนือที่ราบหุบเขาศักดิ์สิทธิ์ของชาวอินคาขึ้นไป ตลาดวันอาทิตย์มีบรรยากาศแบบเก่าๆ อาจจะไม่ค่อยจัดจ้านแต่ก็มีชื่อเสียงมาก นอกจากตลาดที่ขึ้นชื่อแล้ว เมืองนี้ยังมีซากปรักหักพังของชาวอินคา รวมถึงโบสถ์สมัยอาณานิคมอันน่าชม ทั้งคู่เหมาะกับการมาสัมผัสด้วยตาตนเอง
จากตำนานเล่าขานของชาวอินคาตั้งแต่โบราณ ว่ากันว่าเมือง Chincheros เป็นจุดกำเนิดของสายรุ้ง คุณอาจจะมองเห็นสายรุ้งบนท้องฟ้าที่นี่ก็ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามาเที่ยวในช่วงหน้าฝน
เดินไปตามถนนในหมู่บ้าน ก็จะพบกับชาวบ้านในชุดท้องถิ่น และยังมีบ้านที่ก่อสร้างด้วยโคลนอิฐสไตล์เก่าๆ ให้ชมอีกด้วย อย่าลืมมองหาภูเขาอูรูบัมบาและภูเขา Vilcabamba ที่ทอดตัวตามแนวเส้นขอบฟ้า และยังมียอดเขาที่ชื่อ Salcantay บนนั้นด้วย
เดินชมโซนที่เป็นสินค้าทำมือและพืชผักต่างๆ ได้ที่ตลาด Chinchero ตลาดที่จำหน่ายสินค้าทำมือแห่งนี้เป็นหนึ่งในสถานที่สำหรับซื้อหาสิ่งทอหรือผ้าแอเดียนที่ดีที่สุดในย่านนี้ ตลาดแห่งนี้เปิดทุกวัน แต่จะมีคนเดินซื้อของมากหน่อยทุกวันอาทิตย์ เพราะช่างฝีมือมักจะเดินทางมาจากหมู่บ้านในหุบเขาใกล้ๆ เพื่อมาขายของที่ตนทำขึ้นเอง
อย่าลืมไปชมซากปรักหักพังของอินคาประจำเมือง รวมถึงพื้นที่เกษตรกรรมแบบขั้นบันไดที่ได้รับการรักษาไว้อย่างดีจนถึงทุกวันนี้ ส่วนในลานหลักประจำเมือง มีกำแพงหินก้อนใหญ่ที่มีช่องรูปสี่เหลี่ยมคางหมู 10 ช่องด้วยกัน กำแพงนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของพระราชวังในสมัยศตวรรษที่ 15 ชื่อ Túpac Inca Yupanqui
นอกจากนี้ยังมีโบสถ์ Iglesia Colonial de Chinchero ประจำเมืองที่สร้างขึ้นในปี 1607 บนซากโบราณสถานหินปูนของอินคา อย่าพลาดชมภาพเขียนกำแพงที่ทำหน้าที่ตกแต่งหน้ามุขของโบสถ์ให้สวยงาม รวมถึงจิตรกรรมสีสันสวยงามภายในด้วย
ลองกวาดตาสายมองเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ Museo de Sitio พิพิธภัณฑ์เชิงโบราณคดีที่เก็บรวบรวมเครื่องมือและเครื่องเซรามิกของชาวอินคาไว้ และถ้าหากอยากเดินทางต่อ ลองไปเดินป่าตามเส้นทาง Wayllabamba ที่จะพาคุณข้ามหุบเขาศักดิ์สิทธิ์ของชาวอินคาขึ้นไปยัง Yucay
Chincheros ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของกุสโกประมาณ 28 กิโลเมตร สามารถเดินทางมาได้โดยรถประจำทาง รถยนต์ส่วนตัว หรือ Colectivo (รถตู้ร่วมบริการ) หากจะเข้าชมตลาดและโบสถ์ประจำเมืองจะต้องมีบัตรเข้าชมสำหรับนักท่องเที่ยวด้วย