หอคอยหินทรงกรวยและสะพานชัก อาจทำให้กาสเตลโคชดูเหมือนป้อมปราการในยุคกลาง แต่ประวัติของที่นี่เกิดขึ้นใหม่กว่านั้น โบราณสถานที่น่าประทับใจหลังนี้มีอายุย้อนได้ถึงสมัยวิกตอเรีย และสร้างขึ้นให้กับมาร์ควิสที่สามแห่งบูท
เดินข้ามสะพานชัก เพื่อสำรวจอาคารมหัศจรรย์และภายในที่ตกแต่งอย่างหรูหรา ในขณะเดินเล่นไปตามห้อง ห้องโถงและห้องนอนต่างๆ ชมฝีมือของสถาปนิกวิลเลียม เบอร์เจส ผู้ออกแบบที่พักแห่งนี้
ก้าวเข้าไปในห้องรับรองแขกทรงแปดเหลี่ยม และแหงนมองขึ้นไปที่เพดานโค้งแบบมีคร่าวตั้ง ซึ่งมีรูปนกที่กำลังบิน ผีเสื้อและดวงดาว หันกลับมาดูเตาผิงที่ตั้งรูปแกะสลักอันงดงามของเทพีแห่งพรหมลิขิต ซึ่งเป็นเทพีในเทพนิยายกรีก สิ่งของตกแต่งอื่นๆ ที่โดดเด่นในห้องนี้ รวมถึงจิตรกรรมฝาผนังที่แสดงเรื่องราวของนิทานอีสป
แวะไปที่โถงจัดงานเลี้ยง ซึ่งเป็นห้องขนาดใหญ่ที่ตกแต่งอย่างเรียบง่ายตัดกับการตกแต่งแนวเพ้อฝันในห้องอื่นๆ ของปราสาท ขึ้นไปที่ห้องนอนของเลดี้บูท เพื่อชมเพดานโดมสีแดงและทองที่วาดรูปนก ดอกไม้และผลไม้ ขมงานคริสตัลที่ประดับเตียงนอนของเธอ ไฮไลท์อื่นๆ ของปราสาท ได้แก่ หน้าต่างกระจกสีและห้องนอนของลอร์ดบูท
เดินเล่นในสนามเพื่อชมสถาปัตยกรรมภายนอกของอาคาร รวมทั้งหอกลางและหอครัว ภายหลังการเยี่ยมชม ไปเดินเล่นในผืนป่าที่สวยงามโดยรอบปราสาท
ปราสาทหลังนี้อยู่ในระยะประมาณ 8 กม. จากเมืองคาร์ดิฟฟ์ และอยู่เหนือหมู่บ้านทองกวินเลส์ (Tongwynlais) รถประจำทางในท้องถิ่นจอดใกล้ๆ สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ มีที่จอดรถในสถานที่ฟรี กาสเตลโคชเปิดทุกวันและต้องเสียค่าเข้าชม โดยมีส่วนลดสำหรับผู้สูงวัย นักศึกษาและเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี ผู้พิการพร้อมผู้ร่วมทางเที่ยวชมปราสาทได้ฟรี
