แบมเบิร์กเป็นที่รู้จักในนาม “สวรรค์ของนักดื่มเบียร์” ถึงแม้จะเป็นเมืองเล็ก แต่ที่นี่มีโรงหมักเบียร์อยู่มากมาย บางแห่งมีผับในตัวด้วย ลองชิมเบียร์ Rauchbier ของท้องถิ่นที่มีลักษณะพิเศษเป็นรสคล้ายผ่านการรมควัน ซึ่งเกิดจากข้าวบาร์เลย์ที่ผ่านการทำให้แห้งบนเปลวไฟ คุณสามารถชมกรรมวิธีที่ทำข้าวบาร์เลย์ได้ที่ Schlenkerla และ Spezial ซึ่งเป็นโรงหมักเบียร์ผสมผับสองแห่งในเมือง
เมืองแบมเบิร์กทั้งเมืองได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกโดย UNESCO เดินชมย่าน Altstadt หรือดาวน์ทาวน์เก่าแก่ซึ่งมีโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจมากมาย ไปที่ Neue Residenz พระราชวังในสมัยศตวรรษที่ 17 ซึ่งแสดงให้เห็นสถาปัตยกรรมสไตล์เรเนซองส์และบาร็อค
ตรงข้ามพระราชวังนี้เป็น Hofhaltung วิหารสไตล์กอธิกและเรเนซองส์ที่มีสวนหย่อมและสิ่งของสมัยโบราณจำนวนมาก ไปต่อที่ Kaiserdom โครงสร้างสไตล์กอธิกและโรมาเนสก์สมัยศตวรรษที่ 13 ซึ่งแสดงตัวอย่างศิลปะทางศาสนาในยุคกลาง รวมถึง Bamberger Reiter ซึ่งเป็นงานประติมากรรมคนขี่ม้านิรนาม
ชมการแสดงคอนเสิร์ตดนตรีคลาสสิกในช่วงฤดูร้อนที่ Sinfonie an der Regnitz หรือถ้าอยากชมการแสดงสดหลากหลายประเภท ลองไปที่โรงละคร E.T.A. Hoffmann Theater ซึ่งมีการแสดงตั้งแต่ละครเพลงคลาสสิกไปจนถึงละครเพลงสมัยใหม่ โรงละครและโรงละครเวทีหลายแห่งจัดการแสดงขนาดเล็กแต่มีความหลากหลาย เช่น การเต้นระบำฟลาเมนโกและการแสดงดนตรีแจ๊ซสด ในหน้าร้อน เมืองนี้จัดเทศกาลมากมาย เช่น งาน Sandkerwa ที่ใช้เวลา 6 วันในเดือนสิงหาคม โดยมีการแสดงดนตรีโฟล์ก อาหาร และเบียร์
แวะไปที่ย่านช้อปปิ้งซึ่งอยู่รอบๆ Kaiserdom ที่คุณสามารถเลือกซื้อของที่ระลึกได้ มีทั้งร้านขายงานศิลปะ เซรามิก ถ้วยชาม แจกัน และนาฬิกาโบราณ นาฬิกาติดผนัง และเครื่องประดับ
เมืองนี้อยู่ท่ามกลางเนินเขา 7 ลูกที่ Upper Franconia ในแคว้นบาวาเรีย เนื่องจากมีภูมิประเทศคล้ายโรม แบมเบิร์กจึงมักจะถูกเรียกว่า “Franconian Rome” คุณสามารถนั่งรถไฟจากเมืองใกล้เคียงมาที่แบมเบิร์ก นอกจากนี้ยังมีรถไฟด่วนไปถึงเมืองใหญ่ๆ เช่น เบอร์ลินและมิวนิกด้วย ภายในเมืองมีรถบัสที่เชื่อมต่อย่านต่างๆ และหมู่บ้านที่อยู่รอบๆ กับดาวน์ทาวน์แบมเบิร์ก