กิจกรรมในโบฟอร์ต

อุทยานแห่งชาติคิลลาร์นีย์เป็นพื้นที่ธรรมชาติประกอบด้วยเทือกเขาและทะเลสาบอันกว้างใหญ่ในมุมฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของไอร์แลนด์ อุทยานแห่งนี้มีพรรณพืชและสัตว์ป่าประจำถิ่นกระจายอยู่ทั่วพื้นที่ป่าหนาทึบและยอดเขา แวะเยือนคฤหาสน์สมัยวิคตอเรียนที่ชื่อว่ามัคครอสส์เฮาส์การ์เดนส์แอนด์แทรดิชันนัลฟาร์มส์ เพื่อรับทราบข้อมูลล่าสุดจากศูนย์นักท่องเที่ยว

ไม่ว่าจะมาทางเรือภายหลังการเดินทางผ่านช่องเขาดันโล หรือว่าทางบกตามเส้นทาง Kerry Way คุณจะพบปราสาทรอสส์ตั้งอยู่อย่างสงบเหนือทะเลสาบล้ากลีนที่สวยงาม ชมตัวอย่างปราสาทยุคกลางที่อนุรักษ์ไว้อย่างดีเยี่ยมทั้งภายในและภายนอก

ที่คฤหาสน์มัครอสส์ คุณสามารถเที่ยวบ้านขุนนางที่สวยงาม เดินชมสวนที่กว้างใหญ่ และเรียนรู้วัฒนธรรมการเกษตรพื้นเมือง สำรวจคฤหาสน์ขนาดมโหฬารที่มีแง่มุมที่หลากหลายของประวัติศาสตร์ประเทศไอร์แลนด์

มองหาจุดที่กำแพงหินก่อตัวขึ้นสองฝั่งของเส้นทางแคบๆ ซึ่งคดเคี้ยวไปตามชั้นดินสีเขียว แล้วคุณจะได้พบกับหุบเขาดันโล หุบเขาหนาวเหน็บที่น่าทึ่งแห่งนี้ตัดผ่านทิวเขา MacGillicuddy Reeks ทางตะวันตกและ Purple Mountain ทางตะวันออก

ก้าวเข้าไปข้างในอาสนวิหารคิลลาร์นีย์ ซึ่งเป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดหลังหนึ่งในไอร์แลนด์ เพื่อสัมผัสโบสถ์หลังงามและสงบสุขที่มีกระจกสีที่งดงามมีเสน่ห์ โดยบันทึกเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่เต้นเร่าบนฝาผนัง โบสถ์แห่งนี้มีอีกชื่อหนึ่งว่า อาสนวิหารเซนต์แมรีหรืออาสนวิหารพระแม่แห่งอัสสัมชัญ ซึ่งเป็นจุดหมายสำคัญในเมืองคิลลาร์นีย์ที่นำความภาคภูมิใจมาสู่ชาวเมือง

อารามมัครอสส์ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นอารามที่นักพรตพร่ำสวดมนตร์ประจำวัน บัดนี้ กลายเป็นซากปรักหักพังน่าตื่นตาตื่นใจที่มีตะไคร่ขึ้นปกคลุมในอุทยานแห่งชาติคิลลาร์นีย์ ตระเวนไปตามห้องต่างๆ ที่ผ่านประวัติศาสตร์ที่วุ่นวายด้วยความรุนแรงและการทำลายล้าง บัดนี้ คุณสามารถนั่งลงได้อย่างสงบท่ามกลางต้นไม้และดอกไม้ที่ขึ้นอยู่โดยรอบ

เดินตามเสียงลำธารที่ไหลเชี่ยว แล้วมายังพื้นที่โล่งในป่าเพื่อพบกับน้ำตกทอร์ก สายน้ำที่ใสสดชื่นของแม่น้ำโอเวนการ์ริฟไหลลงมากระทบโขดหินดึกดำบรรพ์ ทำให้เกิดละอองฟุ้งขึ้นไปในอากาศที่หนาวเย็น น้ำตกแห่งนี้มีความสูงกว่า 20 เมตร ภายหลังฝนตก ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยครั้งในพื้นที่นี้ ก็จะยิ่งน่าประทับใจขึ้นไปอีก ยืนชมและตะลึงไปกับสายน้ำเชี่ยวกรากที่ไหลผ่านซอกหินแคบๆ ระหว่างแมกไม้ที่ร่มรื่น