พิพิธภัณฑ์เออร์เนสต์ เฮมิงเวย์ ในปัจจุบันคือบ้านที่ เออร์เนสต์ เฮมิงเวย์ นักเขียนชาวอเมริกันซื้อไว้ในช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 1940 บ้านของเฮมิงเวย์ที่ได้กลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ในวันนี้ได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดีให้มีสภาพเหมือนวันที่เฮมิงเวย์เดินทางกลับสหรัฐอเมริกา และพิพิธภัณฑ์ได้จัดแสดงคอลเลคชั่นของส่วนตัวที่ล้วนแล้วแต่น่าสนใจ
ผู้เยี่ยมชมจะได้ไปรู้จักกับนักเขียนนิยายชื่อก้องโลกคนนี้ให้ดียิ่งขึ้น ณ บ้านที่เจ้าตัวเคยอยู่อาศัยถึง 20 ปี ซึ่งเป็นวิลล่าบนเนินเขาในย่าน San Francisco de Paula ที่หันหน้าเข้าหาทะเล หลังจากเหตุการณ์ปฏิวัติ เฮมิงเวย์ย้ายกลับประเทศและยกบ้านและสมบัติให้ชาวคิวบา พิพิธภัณฑ์จึงถูกสร้างขึ้นมาเพื่ออุทิศแก่เฮมิงเวย์และผลงานอันทรงคุณค่าของเขา
เดินสำรวจด้านนอกพิพิธภัณฑ์ มองลอดหน้าต่างและประตูจะเห็นตั้งหนังสือ คอลเลคชั่นแผ่นเสียง หัวสัตว์สตัฟฟ์ที่ได้มาจากหัวของสัตว์ที่เขาล่าเองจากแอฟริกา และแน่นอนว่าต้องมีเครื่องพิมพ์ดีดคู่ใจซึ่งเขาใช้้ประพันธ์วรรณกรรมที่มีชื่อเสียงเรื่อง For Whom the Bell Tolls และ The Old Man and the Sea ด้านในไม่ได้เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชม เนื่องจากพิพิธภัณฑ์ตั้งใจเก็บรักษาสิ่งของพิเศษไว้ให้ดีที่สุด แต่คุณสามารถเห็นห้องของเฮมิงเวย์และมาร์ธา เกลฮอร์น ผู้เป็นภรรยา
บ้านเฮมิงเวย์รายล้อมไปด้วยป่า โดยมีพื้นที่กว่า 60,000 ตารางเมตรให้ได้เดินเล่นเพลินๆ ชมสระว่ายน้ำ สนามชนไก่ เรือตกปลาทะเลที่เฮมิงเวย์ตั้งชื่อว่า Pilar สุสานสุนัข นอกจากนี้ก็ยังมีแมวลูกหลานของแมวที่เคยอยู่กับเฮมิงเวย์เดินป้วนเปี้ยนอยู่
San Francisco de Paula ห่างจากฮาวานา 15 กิโลเมตร จากตัวเมืองมีรถสาธารณะมาที่นี่ ทางเข้าบ้านอยู่ที่ Calle Vigía พิพิธภัณฑ์เปิดทุกวัน แต่ในวันอาทิตย์มีการจำกัดเวลาเข้าชม ถ้าอยากเรียนรู้เรื่องราวชีวิตอันซับซ้อนของเฮมิงเวย์ นักเขียนในดวงใจคนทั่วโลกอย่างจริงจัง แนะนำให้ใช้บริการทัวร์นำชม