เมืองมากงรายล้อมด้วยเนินเขาที่ปกคลุมด้วยต้นองุ่น และมีหอคอยโบสถ์สไตล์โรมาเนสก์ จึงมีความสวยงามเหมือนภาพวาดสีน้ำมากกว่าที่จะเป็นของจริง เมืองมากงก่อตั้งโดยชาวโรมัน และเจริญรุ่งเรืองขึ้นในช่วงยุคกลางด้วยความเป็นเมืองที่เชื่อมระหว่างฝรั่งเศสกับจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ แม่น้ำซาโอน (Saône) ทำให้คนในเมืองร่ำรวยจากการค้าและภาษี สูดอากาศบริสุทธิ์ ชิมไวน์ขาวเบอร์กันดีอันโด่งดัง และเพลิดเพลินกับบรรยากาศอันคึกคักของเมือง
เดินชมแหล่งประวัติศาสตร์ โดยเริ่มต้นจากแหล่งโบราณคดีแซงต์ เคลมองต์ (Saint-Clement Archaeological Site) ซึ่งอยู่ทางใต้ของเมือง ที่แห่งนี้สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 6 เพื่อเป็นโบสถ์สำหรับฝังศพ ชมโบสถ์แซงต์ ปิแอร์ (Saint-Pierre Church) ที่ค่อนข้างทันสมัย จิบเครื่องดื่มที่บ้านไม้ (Wooden House) บ้านที่เก่าแก่ที่สุดของมากง ซึ่งด้านหน้าอาคารตกแต่งด้วยงานแกะสลักที่อยู่กับชาวมากงมาตั้งแต่สมัยต้นศตวรรษที่ 16 เดินชมอาสนวิหารนักบุญบิเซนเตหลังเก่า (Old Saint-Vincent) ซึ่งเป็นอาสนวิหารโบราณที่ปัจจุบันหลงเหลือเพียงสองหอคอยกับหน้ามุข
ดูฉลากยาจางๆ และเรียนรู้เกี่ยวกับยารักษาโรคในสมัยศตวรรษที่ 18 ที่ร้านขายยาของโรงพยาบาลโฮเต็ลดิเออ (Hotel-Dieu Hospital) ซึ่งยังคงรักษาผนังไม้ที่สวยงามเอาไว้ เรียนรู้เกี่ยวกับยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่พิพิธภัณฑ์อุร์สุลิน (Musee des Ursulines) ซึ่งแสดงขุมทรัพย์ทางโบราณคดีมากมายของภูมิภาครวมถึงงานวิจิตรศิลป์ มีนิทรรศการที่จัดทำขึ้นเพื่ออาลฟงส์ เดอ ลามาร์ตีน (Alphonse de Lamartine) กวีและนักการเมืองคนดังแห่งมากง
จิบไวน์ท้องถิ่นในยามบ่ายบนระเบียงริมแม่น้ำ เดินเล่นข้ามสะพานแซงต์ โลรองต์ (Pont Saint-Laurent) อายุกว่า 1,000 ปี ซึ่งเชื่อมเมืองมากงกับหมู่บ้านเล็กๆ ชื่อแซงต์ โลรอง ซูร์ ซาโอน (Saint-Laurent-sur-Saone) ที่อีกฝั่งแม่น้ำ
ขับรถมาที่มากงใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงจากสนามบินนานาชาติที่ใกล้ที่สุดในลียง หรือนั่งรถไฟซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เดินทางจากปารีสด้วยรถยนต์ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง หรือด้วยรถไฟประมาณ 3 ชั่วโมง แนะนำให้ชมเมืองเก่าของมากงด้วยการเดินชม คุณสามารถจอดรถบริเวณที่จอดรถเทศบาลหรือฝากกระเป๋าไว้ที่สถานีรถไฟ
บทบาทของมากงในฐานะประตูสู่อาณาจักรฝรั่งเศสยังคงดำเนินมาจนถึงทุกวันนี้ ด้วยความที่เป็นแหล่งที่เหมาะแก่การสำรวจสถานที่ทางประวัติศาสตร์และลิ้มลองไวน์ของเบอร์กันดี