วัดเตี้ยนจี้เป็นศาสนสถานสำคัญคู่เมืองมานับตั้งแต่ปี 1875 มีชื่อเสียงเลื่องลือด้วยรูปปั้นสัตว์ทะเลที่ทำจากหิน เยี่ยมชมวัดและศาลเจ้าเพื่อสักการะเทพเจ้าที่เรียกกันว่ากษัตริย์นักปราชญ์แห่งฉางโจว กล่าวได้ว่าเสน่ห์ดึงดูดหลักส่วนหนึ่งของตลาดอาหารเมี่ยวโข่วนั้นมาจากความสำคัญในเชิงประวัติศาสตร์และส่วนหน้าอาคารที่ดูงามเด่น
ถ่ายภาพหน้าทางเข้าอันวิจิตรของวัดซึ่งเป็นที่สะดุดตาอยู่ในใจกลางย่านตลาด ชมสัญลักษณ์สีทองอร่าม โคมแดง และภาพนักรบกับมังกรสีสันจัดจ้าน พืชพรรณหลากหลายชนิดช่วยแต่งแต้มบริเวณด้านนอกของวัด
พินิจชมงานประติมากรรมที่น่าสนใจรายรอบศาลเจ้า แนวคิดของงานแกะสลักเหล่านี้สอดคล้องกับชีวิตความเป็นอยู่ของบรรพบุรุษชาวเมืองจีหลง เนื่องจากเมืองแห่งนี้อยู่ใกล้กับทะเลจีนตะวันออก นอกชายฝั่งทิศเหนือของไต้หวัน งานแกะสลักเป็นรูปปู หอย และสัตว์ทะเลชนิดอื่นๆ เข้าร่วมพิธีกรรมที่คึกคักเปี่ยมชีวิตชีวาในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ของทุกปี เพื่อร่วมเฉลิมฉลองกษัตริย์นักปราชญ์แห่งฉางโจว
เดินเล่นเรื่อยเปื่อยผ่านตลาดกลางคืนเมี่ยวโข่วเพื่อซึมซับบรรยากาศแสงสีแห่งนครจีหลง แผงอาหารกว่า 200 เจ้าเรียงรายอยู่ตลอดแนวความยาว 1,300 ฟุต ลองชิมซุป ขนมอบ และอาหารทะเลตำรับโบราณ เพื่อเข้าถึงรสชาติแห่งท้องถิ่นอย่างแท้จริง เลือกซื้อเสื้อผ้าและงานฝีมือต่างๆ ที่วางจำหน่าย
ในรัชสมัยของราชวงศ์ชิงช่วงใกล้สิ้นศตวรรษที่ 19 ชาวเมืองท้องถิ่นร่วมกันบริจาคเงินก้อนโตเพื่อสมทบทุนการก่อสร้างศาสนสถานแห่งนี้ งานก่อสร้างดำเนินไปอย่างช้าๆ ตลอดช่วงเวลาหลายปีจนกระทั่งเสร็จสมบูรณ์เมื่อปี 1923 จากนั้นยังมีการปฏิสังขรณ์อีกหลายครา หลังจากที่เกิดความชำรุดเสียหายระหว่างช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
คุณสามารถเข้าตลาดได้ฟรี ซึ่งจะเปิดอยู่จนถึงยามค่ำ เวลาเปิดร้านของแต่ละเจ้าแตกต่างกันออกไป
วัดเตี้ยนจี้อยู่ถัดจากท่าเรือจีหลง ตรงบริเวณใจกลางเมือง คุณสามารถใช้บริการขนส่งสาธารณะมาที่นี่ได้โดยง่าย เนื่องจากสถานีจีหลงอยู่ในระยะเดินไม่ไกลจากวัด อีกทั้งยังมีป้ายจอดรถประจำทางอีกหลายจุดอยู่ใกล้เคียง