ดาลาเกเตเป็นย่านที่มั่งคั่ง โดยมีชายหาดที่น่าประทับใจและจุดหมายสำคัญทางประวัติศาสตร์สมัยอาณานิคม สำรวจสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามรอบๆ เมืองนี้
พักผ่อนบนผืนทรายขาวของหาดดาลาเกเตบนชายฝั่งตะวันออก ชายหาดสาธารณะแห่งนี้ ขึ้นชื่อสำหรับความสะอาดและสิ่งอำนวยความสะดวก รีสอร์ทเอกชนขนาดเล็กมีสระว่ายน้ำและมองเห็นทัศนียภาพรอบด้านของท้องทะเล เช่าเก้าอี้ผ้าใบและบังกาโลที่ชายหาดสาธารณะ เพื่ออาบแดดอย่างมีสไตล์
เยี่ยมชมโบสถ์ดาลาเกเต (โบสถ์ประจำเขต San Guillermo de Aquitania) ในใจกลางเมือง เพื่อชมการออกแบบสไตล์บาโรกและโรโกโกด้วยกระเบื้องขาวดำและแผ่นปะการังภายในสิ่งปลูกสร้างทางศาสนาแห่งนี้ โบสถ์แห่งนี้มีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ของเมืองนี้ โดยเป็นที่หลบภัยของผู้บุกเบิกชาวสเปน ระหว่างการโจมตีโดยชนเผ่าพื้นเมืองโมโร
สำรวจสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติในบริเวณใกล้เคียง เช่น ยอดเขาออสเมนยา เดินเขาไปตามเส้นทางของเทือกเขามันตาลงออน ซึ่งเป็นเนินเขาตะปุ่มตะป่ำ ปีนขึ้นยอดเขาสูง 1,000 เมตร เพื่อชมป่าไม้อุดมสมบูรณ์ ดาลาเกเตขึ้นชื่อว่าเป็นตะกร้าผักแห่งเมืองเซบู จากเกษตรกรรมที่อุดมสมบูรณ์
แหวกว่ายในผืนน้ำสีฟ้าเขียวน้ำนมที่โอบงสปริงที่มีทิวทัศน์สวยงาม ทางด้านใต้สุดของชายหาด เพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันบริสุทธิ์ของพันธุ์ไม้เขตร้อนริมขอบลากูนที่แยกตัวจากโลกภายนอก ในบริเวณใกล้เคียงกัน มีสระที่สร้างขึ้นเพื่อเก็บน้ำจากน้ำพุกาคุบ
เมืองนี้ตั้งชื่อตามต้นดาลากิตของพื้นที่นี้ เรื่องราวเดิมมีอยู่ว่าผู้บุกเบิกชาวสเปนถามหญิงชาวบ้านคนหนึ่งว่าพื้นที่นี้ชื่ออะไร เธอเข้าใจผิดก็เลยบอกชื่อต้นไม้แทน มาเที่ยวเมืองนี้ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อเข้าร่วมเทศกาล Utanon Festival ที่อุทิศให้กับซานกิลเยอร์โม ซึ่งเป็นงานฉลองด้วยการเต้นรำ ดนตรีและอาหารที่มีชีวิตชีวา
เมืองนี้อยู่บนชายฝั่งตะวันออกของเกาะเซบูในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของฟิลิปปินส์ อยู่ห่างจากเมืองเซบูประมาณ 90 กิโลเมตร ไปทางใต้ตามแนวชายฝั่ง ขึ้นรถประจำทางที่สถานีขนส่งสายใต้ของเซบู แล้วเที่ยวไปในเมืองด้วยรถแท็กซี่หรือรถจี๊ปนีย์
เพลิดเพลินกับประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจและทัศนียภาพอันน่าทึ่งของดาลาเกเต ที่นี่มีภูมิอากาศแบบเขตร้อนตลอดทั้งปี