ผู้ที่มาเยี่ยมเยือนเกาะเอาเตอร์แบงค์สในนอร์ทแคโรไลนาจะได้เห็นประภาคาร Cape Hatteras ลายเกลียวขาวดำ ลวดลายเกลียวที่โดดเด่นบนโครงสร้างทำให้ประภาคารนี้เป็นสถานที่สำหรับเก็บภาพสวยๆ แวะมาชมมรดกตกทอดที่สวยงามของเทคโนโลยีทางการเดินเรือ และเรียนรู้เกี่ยวกับปัญหาในอดีตของผู้ที่ได้รับคำแนะนำในน่านน้ำใกล้เคียง
คลื่นลมทะเลที่รุนแรงบริเวณประภาคาร Cape Hatteras อันเกิดจากกระแสน้ำทะเล 2 สายมาบรรจบกันนี้ ได้พิสูจน์ฝีมือนักเดินเรือมาแล้วหลายต่อหลายรุ่น ศึกษาดูว่าทำไมพื้นที่แห่งนี้จึงได้รับการขนานนามว่า “สุสานแห่งแอตแลนติก” เรือ USS Monitor จมลงนอกชายฝั่ง Cape Hatteras ในปี 1862 ในที่สุดซากเรือก็ได้รับการค้นพบหลังจากเวลาผ่านไปนานกว่า 100 ปี
ประภาคารได้รับการต่อเติมให้สูงขึ้นอีก 18 เมตรในช่วงเวลาหลายปี เพื่อให้สามารถชี้แนะการจราจรทางทะเลได้ดีขึ้น ที่นี่เคยเจอพายุที่รุนแรง จนต้องย้ายโครงสร้างทั้งหมดไปที่อื่น เพื่อป้องกันการถล่มลงบนชายหาดเนื่องจากการกัดกร่อนของพื้นดิน ติดตามเรื่องราวทั้งหมดได้ที่พิพิธภัณฑ์ Graveyard of the Atlantic
เตรียมความฟิตให้พร้อมถ้าตัดสินใจจะเดินขึ้นบันได 257 ขั้นของประภาคาร Cape Hatteras ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด เมื่อเดินถึงยอดประภาคาร มองออกไปจะเห็นทิวทัศน์ที่งดงามของชายฝั่งแคโรไลนา สูดกลิ่นอายของลมทะเลจากมหาสมุทร พอกลับหลังหันก็จะได้ชมยอดต้นไม้บนชายฝั่ง
ถ้าใกล้วันพระจันทร์เต็มดวง ลองหาตั๋วสำหรับ Full Moon Climbs กลุ่มนักท่องเที่ยวจะได้ขึ้นสู่ยอดประภาคารเพื่อชมท้องฟ้าที่สว่างไสวในยามค่ำคืน ควรซื้อตั๋วล่วงหน้าแต่เนิ่นๆ เพราะจะขายหมดอย่างรวดเร็ว
สามารถเดินทางไปประภาคาร Cape Hatteras ได้โดยการขับรถไปทางมุมฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะ Hatteras การเดินทางข้ามอ่าว Pamlico Sound อาจจะอ้อมไปหน่อย แต่ก็เป็นการเดินทางที่คุ้มค่า ขับรถไปตามถนนสายเล็กๆ มุ่งหน้าสู่ Buxton ระหว่างทางจะได้ชมทัศนียภาพอันงดงาม
