กลิ่นอายของเสน่ห์แบบเรียบง่าย ย่านชนบทที่งดงาม และมรดกการทอผ้าด้วยมือทำให้อาโวคาเป็นสถานที่ที่น่าไปเยือนในวันหยุด ไอริชทาวน์เล็กๆ แห่งนี้มีทำเลที่ตั้งอันสวยงามโดยตั้งตระหง่านอยู่ริมแม่น้ำอาโวคา เพลิดเพลินกับการเดินชมผืนป่า โรงงานอายุเก่าแก่หลายศตวรรษ ตลอดจนทิวทัศน์อันน่าตื่นตาบนโขดหินขนาดมหึมา
เที่ยวชมสถานที่สำคัญแห ่งหนึ่งในเมืองคือ มิลล์แอทอาโวคาวิลเลจซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1723 ที่นี่คือโรงงานทอผ้าด้วยมือที่ยังเปิดทำการและเก่าแก่ที่สุดในไอร์แลนด์ โดยมีการปั่นและทอขนสัตว์เพื่อทำผ้าห่ม พรม ผ้าพันคอ และเสื้อผ้า เดินชมอาคารโรงงานและชมกระบวนการทออย่างใกล้ชิด จากนั้น ไปชมมรดกการทำเหมืองที่มีความสำคัญอย่างมาก แม้ว่าเหมืองทองแดงของที่นี่จะปิดทำการไปแล้ว แต่นักท่องเที่ยวสามารถไปที่ เหมืองอาโวคา เพื่อชมซากที่หลงเหลืออยู่ของห้องเครื่อง สะพาน และกองดินซึ่งเป็นวัตถุดิบที่ถูกทิ้งไว้ระหว่างการทำเหมือง
เผื่อเวลาช่วงหยุดพักผ่อนของคุณสำหรับการเที่ยวชมย่านชนบททั้งในและรอบๆ อาโวคา ลองตกปลาในแม่น้ำเอวอนเบก ผ่อนคลายท่ามกลางบรรยากาศอันเงียบสงบของ สวนน็อกคันรีซึ่งเป็นสวนบนพื้นที่ป่าขนาด 15,000 ตารางเมตรที่ได้รับอิทธิพลจากหลาก หลายประเทศ ท่องไปตามเส้นทางธรรมชาติที่ชื่ออาโวคาเรดไคท์ลูปยาว 2.5 กิโลเมตร อันเป็นเส้นทางเดินวนรอบที่ตัดผ่าน คิลมากิกวูดส์ นอกจากนี้ ยังมีเส้นทางชื่อว่าอาโวคาวัลเลย์วอล์คที่งดงาม ซึ่งจะพาคุณเดินท่องไปตามเชิงหุบเขาริมแม่น้ำอาโวคา และแม้ว่าเส้นทางยาว 7 กิโลเมตรนี้จะไม่มีป้ายบอกทาง แต่จะขนานไปกับทางเดินของถนนหลัก
จากนั้น นั่งพักผ่อนที่มีทติ้งออฟเดอะวอเตอร์สอันเป็นจุดที่แม่น้ำเอวอนมอร์และเอวอนเบกไหลมาบรรจบกันกลายเป็นแม่น้ำอาโวคา และเป็นสถานที่ที่กวีชาวไอริชและนักเขียนเพลงสมัยศตวรรษที่ 19 โทมัส มอร์ได้ประพันธ์บทกวีไอริชชื่อดังที่มีชื่อว่า The Meeting of the Waters แล้วปิดท้ายด้วยการขึ้นไปบนมอททีสโตน ก้อนหินแกรนิตขนาดใหญ่บนยอดเนินเขา
หากต้องการมาเยือนอาโวคา ให้ขึ้นเครื่องบินมาลงที่สนามบินดับลิน ซึ่งเป็นสนามบิ นหลักที่ใกล้ที่สุด จากนั้นเดินทางต่อไปอีก 84 กิโลเมตรมาที่เมืองแห่งนี้ด้วยรถประจำทาง รถไฟ แท็กซี่ หรือรถเช่า เพลิดเพลินกับวันหยุดพักผ่อนเพื่อมาสัมผัสวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และประสบการณ์กลางแจ้งที่ยอดเยี่ยม













