เมืองอาคูเรย์รี คือสถานที่ยอดเยี่ยมที่สุดแห่งหนึ่งในไอซ์แลนด์ซึ่งคุณจะได้เรียนรู้วัฒนธรรมอันรุ่มรวยของภูมิภาคนอร์ดิก เที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ต่างๆ พร้อมมองเชิงเขาสูงเด่นเหนือทิวทัศน์ของเมือง เทือกเขาที่โอบล้อมอาคารบ้านเรือนใจกลางเมืองอันสวยงาม เปี่ยมด้วยกลิ่นอายวัฒนธรรมพื้นบ้าน ซึ่งบริเวณนี้มีผู้คนอาศัยมาอย่างยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 9 เรียนรู้บทบาทของเมืองนี้ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งใช้เป็นฐานของกองทัพฝ่ายสัมพันธมิตร
เยือนสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดของภูมิภาคนี้คือ โบสถ์อาคูเรย์รีเปิดในหน้าต่างใหม่ ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขา เดินขึ้นบันไดไปยังประตูโบสถ์แล้วเข้าสู่ภายในเพื่อชมสมบัติที่มีคุณค่าทางศาสนา ตื่นตาไปกับรูปปั้นเทวทูตและแผ่นกระจกสีตรงกลางโบสถ์ บริเวณเพดานมีเรือห้อยลงมาซึ่งแสดงถึงประเพณีของชาวนอร์ดิกเพื่อขอพรให้ผู้ที่ออกทะเลเดินทางปลอดภัย
สัมผัสกลิ่นอายวัฒนธรรมท้องถิ่นด้วยการเยี่ยมชม พิพิธภัณฑ์ Jón Sveinsson ที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่นักประพันธ์และนักบวชเยสุอิตผู้นี้ กระท่อมไม้สีขาวดำแห่งนี้ยังเป็นที่รู้จักในอีกชื่อว่า “Nonni’s House” ซึ่งตั้งตามชื่อเล่นของ Sveinsson ทั้งยังเป็นตัวอย่างบ้านที่สร้างขึ้นตามแบบฉบับของไอซ์แลนด์ยุคศตวรรษที่ 19 ชมคลิปเกี่ยวกับนักประพันธ์ในทศวรรษที่ 1940 และเรียนรู้เกี่ยวกับหนังสือเด็กที่เขาเคยฝากผลงานเอาไว้
เพิ่มชีวิตชีวาให้กับการเดินทางของคุณเล็กน้อยที่ สวนพฤกษศาสตร์อาคูเรย์รี หยิบหนังสือมาอ่านสักเล่มบนม้านั่งท่ามกลางมวลหมู่ดอกไม้ที่สวยงาม จากนั้นเดินเที่ยวชมสวนซึ่งผสมผสานทั้งพันธุ์ไม้ท้องถิ่นของไอซ์แลนด์และพืชพรรณที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ
เก็บภาพ เทือกเขา Súlur ขนาดมหึมาที่ทอดตัวยาวสูงตระหง่านเหนือเมือง จากนั้นเดินตามเส้นทางจากหุบเขา Glerárdalur ขึ้นไปยังยอดเขา
ปัจจัยต่างๆ ทางภูมิศาสตร์ทำให้สภาพภูมิอากาศของภูมิภาคนี้อบอุ่นจนน่าแปลกใจเมื่อเทียบกับพื้นที่อื่นๆ ของไอซ์แลนด์ตอนเหนือ ในช่วงฤดูหนาวเหล่าอาคารบ้านเรือนอันทรงเสน่ห์จะปกคลุมไปด้วยหิมะ สนุกสนานกับงานต่างๆ ที่จัดขึ้นในเมือง เช่น เทศกาลยุคกลางที่จัดขึ้นทุกปี
ทางตอนเหนือของไอซ์แลนด์มีสนามบินนานาชาติเพียงแห่งเดียวคือที่เมืองนี้ คุณสามารถนั่งรถแท็กซี่ไปทางเหนือราว 3 กิโลเมตรเพื่อไปยังใจกลางเมือง ส่วนเมืองเรคยาวิกตั้งอยู่ห่างออกไปทางด้านทิศตะวันตกเป็นระยะทาง 378 กิโลเมตร ซึ่งจะใช้เวลาขับรถประมาณ 4-5 ชั่วโมง
เยือนอาคูเรย์รีซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ตัวเมืองที่สำคัญของประเทศ เพื่อสัมผัสกับกลิ่นอายวัฒนธรรม ภูมิศาสตร์ และความสวยงามตามธรรมชาติของไอซ์แลนด์