ท่าเรือรูปพระจันทร์เสี้ยวของโอบัน คือจุดหมายปลายทางที่ให้ทิวทัศน์งดงามที่สุดแห่งหนึ่งในสก็อตแลนด์ตอนเหนือ ขึ้นไปสำรวจสิ่งปลูกสร้างเก่าแก่บนเขาสูง และมองลงมายังท่าเรือเพื่อดูการสัญจรของเรือที่ผลัดกันเข้าออกท่าอย่างน่าชม
ตื่นตาตื่นใจไปกับสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของโอบัน หอคอยแม็คเคจ (McCaig's Tower) อนุสาวรีย์ที่โดดเด่นด้วยรูปทรงเหมือนกับโคลีเซียม ปีนเขาขึ้นไปยังยอดสุดของป้อมแม็คเคนแล้วพักผ่อนหย่อนใจในสวนด้านใน คุณสามารถมองลอดช่องประตูของป้อมเพื่อดูวิวทะเลและเกาะเคอร์เรรา (Island of Kerrera)
ด้านล่างของหอคอยแห่งนี้คือ โรงกลั่นเหล้าโอบัน (Oban Distillery) ซึ่งสามารถหาเจอได้ง่ายๆ เพียงมองหาปล่องไฟสีแดง ทัวร์ไปรอบๆ โรงกลั่นเพื่อดูขั้นตอนการบ่มวิสกี้และจิบมอลต์สกัดที่ผ่านการกลั่นมาอย่างพิถีพิถันด้วยมือ เมืองนี้ขยายใหญ่ขึ้นจากโรงกลั่นเหล้าที่สร้างขึ้นในปี 1794
ศึกษาประวัติศาสตร์โอบันจากพิพิธภัณฑ์สงครามและสันติภาพโอบัน (Oban War and Peace Museum) ซึ่งตั้งในสำนักงานใหญ่ของหนังสือพิมพ์อันเก่าแก่ของเมือง นอกจากนี้ยังมีโบสถ์สวยงามอีกสองแห่ง รวมถึงวิหารเซนต์จอห์น อีพิสโคปอล (St. John's Episcopal Cathedral) วิหารที่มีโครงสร้างที่ยังไม่เสร็จสิ้นดีของงานหินและคานเหล็ก
แล้วเดินทางไปยังปราสาทสองแห่งที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง ปราสาทดูโนลลี่ (Dunollie Castle) ปราสาทที่ยังเหลือจากยุคหิน ภายในปราสาทมีพิพิธภัณฑ์จัดแสดงศิลปะวัตถุที่รวบรวมจากท้องถิ่นในย่านนั้น ปราสาทดุนสตัฟเนจ (Dunstaffnage Castle) ขับรถไปทางตอนเหนือของโอบันประมาณ 10 นาที ปราสาทแห่งนี้มีป้อมปราการที่สร้างขึ้นในยุคกลางที่โดดเด่นด้วยโบสถ์ที่เชื่อมต่อกัน
เมืองโอบันยังได้รับการขนานนามว่าเป็น “เมืองหลวงซีฟู้ดแห่งสก็อตแลนด์” ลิ้มลองอาหารทะเลสดใหม่ที่ชาวประมงจับขึ้นมาได้ในแต่ละวันจากร้านอาหารขึ้นชื่อที่มีมากมายในเมือง
โอบันอยู่ห่างจากสนามบินกลาสโกว์ ที่มีเที่ยวบินไปยังเมืองต่างๆ ของสหราชอาณาจักรและประเทศอื่นๆ ทั่วโลก 90 ไมล์ (145 กิโลเมตร) และยังมีรถไฟไปยังอีดินเบิร์ก (Ediburgh) ให้บริการเป็นประจำจากสถานีโอบันซึ่งอยู่ถัดจากท่าเรือเฟอร์รี่
เมืองโอบันเป็นเมืองที่มีทัศนียภาพชายฝั่งที่งดงาม และเป็นจุดหมายปลายทางยอดฮิตสำหรับการท่องเที่ยวในฤดูร้อน หากต้องการความเป็นส่วนตัวขึ้นสักหน่อย ลองมาสัมผัสบรรยากาศอันเงียบสงบในฤดูใบไม้ผลิหรือใบไม้ร่วง หรือหากคุณมีใจรักในงานเทศกาลดนตรี ต้องไม่พลาดมาเยือนโอบันในเดือนพฤษภาคมเพื่อเข้าร่วมงาน Highland and Islands Music and Dance Festival