สะพานสายรุ้ง

สะพานสายรุ้ง ตั้งชื่อขึ้นตามแสงไฟหลากสีที่ส่องออกมาจากเสาและโครงสร้างที่ยึดเส้นลวดเคเบิลขึงสะพาน หลอดไฟพลังงานแสงอาทิตย์สีแดง ขาว และเขียว ส่องแสงสลับตัดกับไฟสีฟ้าที่ด้านล่างของสะพาน จนเกิดเป็นแถบสีสายรุ้งที่สะท้อนลงบนพื้นน้ำของอ่าวโตเกียวสะพานแขวนความยาว 798 เมตรนี้ เป็นเส้นทางคมนาคมที่สำคัญของโตเกียว โดยเป็นทางที่เชื่อมระหว่างท่าเรือชิบะอุระและย่านริมน้ำโอไดบะในเขตมินาโตะ สะพานแบ่งเป็นสองชั้น ชั้นบนใช้เป็นทางด่วน ส่วนชั้นล่างเป็นทางสำหรับรถโมโนเรล และช่องทางจราจรสำหรับรถยนต์และรถบรรทุก รวมถึงทางเดินเท้า จุดชมวิวสะพานสายรุ้งที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งคือที่ย่านโอไดบะ ใกล้กับสถานีไดบะ ที่นั่น คุณจะเห็นอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพจำลองตั้งเด่นอยู่ท่ามกลางต้นไม้ และเมื่อมองไปด้านหลังอนุสาวรีย์ สะพานสายรุ้งก็จะส่องแสงระยับตาท่ามกลางทิวทัศน์ของโตเกียว พร้อมฉากหลังสุดตระการตาของหอคอยโตเกียวที่บรรจงสร้างขึ้นโดยมีหอคอยไอเฟลของฝรั่งเศสเป็นแรงบันดาลใจ โอไดบะมีจุดชมวิวและร้านอาหารริมแม่น้ำหลายแห่งให้คุณได้เลือกชมวิวของสะพานสายรุ้งในช่วงกลางวัน แต่ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการไปเยือนสะพานสายรุ้ง คือ หลังพระอาทิตย์ตกดินเมื่ออาคารสูงและสะพานเริ่มเปิดไฟ การนั่งเรือลอดใต้สะพานขนาดยักษ์นี้ก็จะได้ชมวิวของสะพานจากอีกมุมมองหนึ่งที่น่าสนใจไปอีกแบบ หรือจะนั่งรถโมโนเรลเพื่อชมวิวจากหน้าต่างบานกว้างขณะที่รถกำลังวิ่งข้ามสะพานก็ได้ สะพายกล้องตัวโปรดเพื่อบันทึกภาพไว้เป็นความทรงจำขณะที่คุณเดินข้ามสะพาน ถือเป็นการได้ออกกำลังกายไปด้วยในตัว ทางทิศเหนือของสะพานคุณสามารถเห็นวิวของหอคอยโตเกียว โตเกียวสกายทรี และทิวทัศน์ของเมือง ส่วนทางทิศใต้จะเป็นชายหาดและตึกฟูจิทีวีในย่านโอไดบะ ในวันที่อากาศเป็นใจ คุณอาจเห็นวิวของภูเขาไฟฟูจิได้ด้วย สะพานเปิดให้ผู้เดินเท้าขึ้นไปเดินเล่นได้ฟรี โดยเปิดตั้งแต่ช่วงเช้าไปจนตลอดทั้งคืน แต่จะปิดก่อนพระอาทิตย์ตกดินในช่วงฤดูหนาว ถ้าคุณจะไปเดินในช่วงฤดูหนาว อย่าลืมแต่งตัวให้อบอุ่น นอกจากนี้ สะพานยังปิดในวันจันทร์ที่สามของเดือน และในวันที่ 29-31 ธันวาคม รวมถึงวันที่สภาพอากาศไม่ดี ในการเดินทางมายังสะพานจากฝั่งโตเกียว คุณต้องนั่งรถไฟมายังสถานี Shibaurafuto จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 10 นาที ก็จะถึงสะพาน สถานี Odaibakaihinkoen ในย่านโอไดบะมีทางเดินเชื่อมต่อกับสะพาน