เจดีย์ 5 ชั้นของวัดเซ็นโซจิที่ตั้งอยู่ท่ามกลางบ้านเรือนและอาคารสมัยใหม่ เป็นสัญลักษณ์ของการอยู่ร่วมกันระหว่างความเก่าและความใหม่ และความเชื่อทางจิตวิญญาณและการใช้งานได้จริง ตำนานเล่าว่าในปีพ.ศ. 1171 ชาวประมง 2 คน พบรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมในแหหาปลาของพวกเขา ถึงจะพยายามส่งรูปปั้นกลับไปในทะเลกี่ครั้ง แต่ก็ติดแหกลับขึ้นมาอีกทุกครั้ง จึงมีการสร้างวัดขึ้นในปีพ.ศ. 1188 เพื่อเป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมให้ชาวบ้านได้มากราบไหว้บูชา ถึงแม้สิ่งก่อสร้างในพื้นที่วัดจะถูกทำลายลงและสร้างขึ้นใหม่หลายครั้งในช่วงหลายพันปีที่ผ่านมา ความนิยมในวัดเซ็นโซจิมีแต่จะเพิ่มขึ้นในทุกยุคสมัยถนนนากามิเสะที่ทอดยาวไปยังวัดเซ็นโซจิมีร้านค้าขายอาหารและของฝากตั้งเรียงรายอยู่ตลอดสองข้างทาง มีของที่ระลึกให้ได้เลือกซื้อมากมายหลายแบบ ตั้งแต่พัด ชุดยูกาตะผ้าฝ้าย เสื้อผ้าลำลอง พวกกุญแจ ไปจนถึงกิโมโน ถนนช้อปปิ้งเส้นนี้ก็มีอายุเก่าแก่นับพันปีไม่แพ้วัดเช่นกันเมื่อเดินผ่านซุ้มประตู 2 หลัง ก็จะพบอาคารหลักของวัด เจดีย์ 5 ชั้น และศาลเจ้าอาซากุสะ ประตูทางเข้าชั้นนอกของวัดเป็นที่รู้จักกันในชื่อ "ประตูคามินาริมอน" หรือประตูสายฟ้า มีโคมสีแดงขนาดใหญ่ที่ผู้คนนิยมไปถ่ายรูปเป็นที่ระลึก นับเป็นจุดที่เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของญี่ปุ่นชมสถาปัตยกรรมทางพุทธศาสนาและรูปปั้นในหมู่อาคาร วัดแห่งนี้ยังคงเป็นวัดในพระพุทธศาสนาที่มีคณะสงฆ์ศึกษาปฏิบัติธรรมและประกอบพิธีทางศาสนา หอ Komagatado เป็นที่ประดิษฐานของรูปปั้นพระโพธิสัตว์เศียรม้า ที่เปิดให้เข้าชมและสักการะในวันที่ 19 ของทุกเดือน และในช่วงเทศกาลใหญ่ที่จัดขึ้นในวันที่ 19 เมษายนของทุกปี ที่นี่ยังเป็นสถานที่จัดกิจกรรมพิเศษมากมาย เช่น เทศกาลของศาลเจ้าอาซากุสะในเดือนพฤษภาคม เทศกาลซันจะมัตสึริ และงานแซมบ้าคาร์นิวัลในเดือนสิงหาคม คุณสามารถเข้าชมวัดเซ็นโซจิได้ฟรี บริเวณภายนอกของวัดเปิดตลอดทั้งวัน ส่วนอาคารหลักจะเปิดตั้งแต่เช้าจนถึงช่วงก่อนเย็นทุกวัน สามารถเดินทางมาได้ทั้งทางรถไฟและรถไฟใต้ดิน โดยลงที่สถานีอาซากุสะซึ่งอยู่ใกล้กับประตูทางเข้าวัด
วัดเซนโซจิ
เที่ยว วัดเซนโซจิ
แพลนทริปเที่ยว วัดเซนโซจิ
ราคาที่พบใน 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา คลิกเพื่อดูราคาที่อัปเดต





