จังหวัด Guanacaste ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของคอสตาริกา มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ตั้งแต่ชายหาดอันเงียบสงบไปจนถึงเมืองริมมหาสมุทรที่มีสีสัน ภูมิประเทศมีความหลากหลาย มีทั้งถ้ำใต้ดิน ภูเขาไฟและแหล่งอนุรักษ์ธรรมชาติขนาดใหญ่ เพลิดเพลินไปกับกิจกรรมกลางแจ้ง หรือจะสัมผัส “ซาฟารีแบบแอฟริกัน” ก็ทำได้
อย่าลืมแวะมาที่อุทยานแห่งชาติ Rincón de la Vieja National Park ที่อยู่ทางตอนเหนือของ Guanacaste มีพื้นที่ 34,800 เอเคอร์ (14,100 เฮกตาร์) แล้วไปต่อที่สถานที่ท่องเที่ยวหลักอย่างภูเขาไฟหินกรวด เดินเล่นต่อเนื่องในป่าเขตร้อนพร้อมชมวิวสวยๆ ของภูเขา Guanacaste
จากนั้นออกสำรวจอุทยานแห่งชาติ Santa Rosa National Park พื้นที่อนุรักษ์ทางตะวันตกเฉียงเหนือที่เดิมสร้างขึ้นเพื่อปกป้องพื้นที่ของ Battle of Santa Rosa ปัจจุบันกลายมาเป็นจุดพักของคนชอบตั้งแคมป์ที่ยังชื่นชอบในการชมพรรณไม้ สัตว์ป่าและชายหาด
ใช้เวลาพักผ่อนหลายๆ ชั่วโมงที่ Africa Mía Natural Private Reserve จุดอนุรักษ์ธรรมชาติที่ตั้งอยู่ตอนกลางของจังหวัด แล้วไปทัวร์ซาฟารีแอฟริกันเพื่อสัมผัสประสบการณ์ชมสัตว์อย่างสมจริงแบบที่ไม่ต้องออกไปดูนอกอเมริกากลางกันเลย
และยังมีอุทยานแห่งชาติ Barra Honda National Park ที่อยู่ใกล้กับอ่าวโคโลราโด ปีนบันไดขึ้นไปเพื่อชมถ้ำหินปูนใต้ดินที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี พบกับสัตว์สายพันธุ์หายาก ไม่ว่าจะเป็นซาลามันเดอร์ตาบอดที่มีชีวิตอยู่ได้โดยไม่ต้องใช้แสง
จากนั้นก็อาบแดดบนชายหาดมหาสมุทรแปซิฟิกที่มีชื่อเสียงใน Guanacaste ไม่ว่าจะเป็นหาดปานามาซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันเงียบสงบทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของภูมิภาค ขึ้นชื่อเรื่องความสงบนิ่งของน้ำ และยังมีหาดโคโค่ที่อยู่ใกล้ๆ เป็นเมืองริมชายฝั่งที่มีสีสัน เต็มไปด้วยร้านอาหารและบาร์ ถ้าหากขับรถไปทางตอนใต้อีกหน่อยก็จะได้พบกับหาดทรายขาวที่หาด Flamingo
ลงใต้ต่อไปอีกก็จะพบกับหมู่บ้านริมทะเลที่หาด Tamarindo ที่มีร้านอาหาร โรงแรมและบาร์เช่นกัน มาที่นี่แล้ว แนะนำให้ลองเล่นเซิร์ฟบนคลื่นสูง และควรจะจองทัวร์ล่วงหน้าระหว่างเดือนตุลาคมและพฤษภาคมเพื่อชมเต่ามะเฟืองที่อุทยานแห่งชาติ Marino las Baulas National Park ที่อยู่ใกล้ๆ ไปไกลอีกหน่อยที่แหลม Nicoya Peninsula จะได้พบกับหาด Samara เป็นจุดอาบแดดในฝันของใครหลายๆ คนก็ว่าได้ เพราะมีหาดทรายขาวที่ทั้งกว้างและทอดตัวไปไกล
โดยทั่วไปแล้ว Guanacaste มีสภาพภูมิอากาศที่ร้อนและแห้งตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนไปจนถึงเมษายน ส่วนที่เหลือทั้งปีนั้นเป็นฤดูฝน
เดินทางมาได้โดยเครื่องบิน ลงที่สนามบินนานาชาติ Daniel Oduber Quirós ในไลบีเรีย ซึ่งอยู่ห่างจากมหาสมุทร 23 กิโลเมตร