ชายหาด เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และประวัติศาสตร์เรื่องราวของอาณานิคม ทำให้โมซัมบิกเป็นหนึ่งในปลายทางท่องเที่ยวที่น่าทึ่งที่สุดของแอฟริกา ชมสิงโตขาวและควายป่ายามท่องเที่ยวชมสัตว์แบบซาฟารี ว่ายน้ำกับฉลามวาฬ ดำน้ำตื้นไปรอบเกาะ หรือซอกแซกไปในเมืองสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนต่างๆ ที่มีชีวิตชีวา โมซัมบิกทอดตัวไปตามชายฝั่งทางตะวันออกของทวีป ระหว่างแทนซาเนียและแอฟริกาใต้
นักอาณานิคมชาวโปรตุเกสครองโมซัมบิกอย่างไม่เคร่งครัดนักเป็นเวลากว่า 500 ปี ทิ้งร่องรอยอิทธิพลโปรตุเกสเอาไว้ในวัฒนธรรม อาหาร และภาษา โมซัมบิกเคยเสียชื่อด้วยสงครามกองโจรช่วงยุคเซเวนตี้ส์และเอทตี้ส์ แต่ปัจจุบัน ประเทศนี้สงบและมั่นคง
ชายฝั่งทางใต้ของโมซัมบิกพร้อมเปิดรับการท่องเที่ยว สำหรับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เมืองหลวงมาปูโตเป็นเมืองท่าเมืองแรกที่ต้องแวะ เดินเล่นไปบนถนนที่ปลูกต้นไม้เรียงรายเพื่อค้นหาร้านกาแฟข้างทางที่ซ่อนตัวอยู่ในอาคารอาร์ตเดโคสีจางๆ ชมป้อมยุคอาณานิคม สำรวจตลาดหัตถกรรมและผลไม้ที่คึกคัก หรือชิมอาหารทะเลอร่อยๆ ที่ร้านอาหารริมทะเล
โขลงช้างและฝูงแรดเผือกอาศัยอยู่ในเขตสงวนพันธุ์ข้าง Maputo ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำ Maputo และมหาสมุทรอินเดีย โต้คลื่นยักษ์ที่หมู่บ้าน Ponta do Ouro หมู่บ้านริมหาดสไตล์โบฮีเมียนทางใต้ของเมือง Maputo เอนกายที่หาดชื่อดังต่างๆ ของภูมิภาค Inhambane ว่ายน้ำกับฉลามวาฬน่าตื่นใจที่หาด Tofo หรือดำน้ำที่แนวปะการังรอบหมู่เกาะ Bazaruto
ข้ามแม่น้ำ Zambezi ไปท่องทุ่งหญ้าเปลี่ยวเถื่อนและชายฝั่งที่ร้างไกลผู้คนของโมซัมบิก สอดส่ายสายตาหาสิงโตขาวและสัตว์ป่าอื่นๆ อีกมากมายที่ป่าอุทยานแห่งชาติ Gorongosa ชมดาวนับพันที่ทะเลสาบ Niassa ชมสถานที่ท่องเที่ยวเก่าแก่ยุคโคโลเนียลสองฝั่งถนนที่ปูด้วยหินของเกาะโมซัมบิก หนีความวุ่นวายออกสู่ชายหาดเงียบๆ ของหมู่เกาะ Quirimbas ที่ประกอบไปด้วยเกาะอีกมากกว่า 20 เกาะ
อากาศของโมซัมบิกแตกต่างกันไปตั้งแต่เหนือจรดใต้ โดยทางเหนือจะร้อนกว่าเล็กน้อย ภูมิภาคทางใต้อากาศดีแทบทั้งปี แม้จะร้อนระอุและอาจมีพายุไซโคลนในเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ก็ตาม
เดินทางสู่โมซัมบิกด้วยเครื่องบินไปยังสนามบินนานาชาติมาปูโต หรือนั่งรถไฟจากเมืองเดอร์บันและโจฮันเนสเบิร์ก การเดินทางภายในประเทศด้วยรถประจำทางท้องถิ่น ทัวร์นำเที่ยว และรถเช่า จะพาคุณสู่ทิวทัศน์และการผจญภัยไม่ซ้ำแบบกัน ทำให้การเดินทางครั้งนี้ประทับใจไม่รู้ลืม