เกี่ยวกับตุรกี
ตุรกีได้ชื่อว่า “ประเทศสองทวีป” เนื่องจากมีพื้นที่ทั้งในทวีปเอเชียและยุโรป มีชื่อทางการว่า “สาธารณรัฐตุรกี” เมืองหลวงคือ “อังการา” (Ankara) ตุรกีมีความเป็นมายาวนานตั้งแต่ 2,500 ปีก่อนคริสตกาล และมีตำนานและเรื่องราวสำคัญทางประวัติศาสตร์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเรือโนอาห์ สงครามเมืองทรอยหรือสงครามม้าไม้ และสงครามครูเสด อิสตันบูลเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของตุรกี เคยเป็นเมืองหลวงของสองจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่ในอดีตคือ จักรวรรดิไบแซนไทน์ (Byzantine Empire) และจักรวรรดิออตโตมัน (Ottoman Empire) รวมระยะเวลาที่เป็นเมืองหลวงกว่า 1,600 ปี การเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังตุรกีทำได้โดยเครื่องบิน มีเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ ไปยังอิสตันบูล ระยะทางรวม 7,478 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมง
ห้ามพลาด
ตุรกีมีฤดูกาล 4 ฤดูได้แก่ ฤดูใบไม้ผลิ (เดือนเมษายน-เดือนพฤษภาคม) ฤดูร้อน (เดือนมิถุนายน-เดือนสิงหาคม) ฤดูใบไม้ร่วง (เดือนกันยายน-เดือนตุลาคม) และฤดูหนาว (เดือนพฤศจิกายน-เดือนมีนาคม) ช่วงที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวในตุรกีคือ ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งอากาศจะไม่ร้อนหรือหนาวเกินไปและมีนักท่องเที่ยวน้อย ฤดูร้อนเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวและเป็นช่วงที่ค่าใช้จ่ายแพงที่สุด ในฤดูหนาวพื้นที่ทางตะวันออกของตุรกีมีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ -30 องศาเซลเซียส ส่วนพื้นที่ทางตะวันตกของตุรกีจะมีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 0 องศาเซลเซียส นอกจากนี้บริเวณชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน (Mediterranean Sea) และทะเลอีเจียน (Aegean Sea) รีสอร์ทหลายแห่งจะปิดให้บริการ
สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญได้แก่ มัสยิดสีน้ำเงิน (Blue Mosque) มัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในอิสตันบูล มีชื่อเดิมว่ามัสยิดสุลต่านอาเหม็ด (Sultan Ahmed Mosque) ตกแต่งด้วยกระเบื้องอิซนิกซึ่งมีสีฟ้าอมเขียว และหน้าต่างประดับด้วยกระจกหลากสี เมื่อกระทบกับแสงแดดหรือแสงไฟทำให้ภายในมัสยิดเป็นสีน้ำเงินสว่างไสว ฮาเกียโซเฟีย (Hagia Sophia) เดิมเป็นศาสนจักรออร์โธดอกซ์ ต่อมาถูกเปลี่ยนให้เป็นมัสยิดโดยสุลต่านเมห์เหม็ดที่ 2 แห่งจักรวรรดิออตโตมัน ปัจจุบันฮาเกียโซเฟียเป็นพิพิธภัณฑ์ และได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคกลาง (Seven Wonders of the Medieval World) และแคปพาโดเชีย (Cappadocia) นครใต้ดินอายุกว่า 4,000 ปี ตั้งอยู่บริเวณตอนกลางของประเทศ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
ร้านอาหารและบาร์
อาหารพื้นเมืองที่ขึ้นชื่อและราคาประหยัดได้แก่ เคบับ (kebab) เนื้อย่าง และดูรัม (dürüm) แป้งแผ่นบางม้วนกับเนื้อและผัก อาหารตุรกีแบบดั้งเดิมเริ่มต้นด้วยอาหารเรียกน้ำย่อยเช่น เคิฟเท่ (köfte) เนื้อแกะผสมกับหัวหอมและกระเทียมแล้วบดให้เข้ากัน ตามด้วยอาหารหลักเช่น โดลมา (dolma) ข้าวปรุงรสห่อด้วยใบองุ่น หรือมันทึ (manti) แผ่นแป้งห่อเนื้อบดคล้ายกับเกี๊ยว สุดท้ายเป็นของหวานเช่น โลคุม (lokum) หรือเตอร์กิชดีไลท์ (Turkish delight) ขนมก้อนสี่เหลี่ยมเล็กๆ ทำจากแป้งและน้ำตาล หรือบาคลาวา (baklava) ซึ่งคล้ายกับพาย แต่ละชั้นสอดไส้ถั่วผสมกับน้ำผึ้ง ในอิสตันบูลย่านออร์ตากอย (Ortakoy) เป็นแหล่งบันเทิงยามค่ำคืนที่มีชื่อเสียง และย่านกาลาตา (Galata) เป็นแหล่งรวมของร้านอาหารระดับหรู
กิจกรรม
ตุรกีมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมายเช่น การชมเมืองเอฟิซัส (Ephesus) เมืองกรีกโบราณ การสำรวจเส้นทางลิเชียน (Lycian Way Trail) เส้นทางเดินป่าริมทะเลที่ขึ้นชื่อ มีระยะทางประมาณ 500 กิโลเมตร การขึ้นบอลลูนชมทัศนียภาพในมุมสูงของเมืองแคปพาโดเชีย (Cappadocia) ดินแดนมหัศจรรย์ที่โด่งดังของตุรกี และการพักผ่อนบนชายหาดโอลูเดนิซ (Ölüdeniz Beach) ในเฟทิเย (Fethiye) และเซสเมเพนนินซูล่า (Çesme Peninsula) บนชายฝั่งทะเลอีเจียน
ช้อปปิ้ง
นับเป็นเวลาหลายศตวรรษที่ตุรกีเป็นศูนย์กลางทางการค้าที่สำคัญ และปัจจุบันตุรกียังคงเป็นหนึ่งในแหล่งช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงที่สุดในเอเชียตะวันตก แหล่งช้อปปิ้งสินค้าประเภทเครื่องหนังในอิสตันบูลคือ ย่านลาเลลี (Laleli) ย่านเบยาซิต (Beyazit) และย่านมาห์มุดปาชา (Mahmutpasa) ของฝากขึ้นชื่อจากตุรกีได้แก่ พรมคิลิม (Kilim) ผ้าพันคอและผ้าคลุมไหล่บูร์ซา (Bursa scarves) เครื่องปั้นดินเผาแคปพาโดเชีย และสบู่คาสตีล (Castile Soap) ซึ่งใช้น้ำมันมะกอกเป็นส่วนผสมหลัก
