Andalucia เป็นภูมิภาคที่มีธรรมชาติตัดกันโดยสิ้นเชิง โดยมีทั้งยอดเขาสูง ชายหาดยาวหลายกิโลเมตร และทะเลทราย นอกจากธรรมชาติที่มีความหลากหลายแล้ว Andalucia ยังมีขุมทรัพย์ทางสถาปัตยกรรม ตั้งแต่สิ่งก่อสร้างสมัยก่อนประวัติศาสตร์ไปจนถึงป้อมปราการของชาวมัวร์ คุณจะมีโอกาสได้เยี่ยมชมวิหาร ปราสาท และพระราชวังโบราณ เดินทางไกลผ่านหุบเขา และแหวกว่ายในทะเลเมดิเตอเรเนียน
เมืองต่างๆ ใน Andalucia อุดมไปด้วยอัญมณีทางสถาปัตยกรรม ไปที่ Guadix เพื่อชมบ้านในถ้ำมากมายและสุสานหิน Megalith ที่อยู่ใกล้กับ Antequera ถ้าคุณไปที่ Seville ต้องไม่พลาดทัวร์ชมวิหารซึ่งเป็นหนึ่งในวิหารสไตล์กอธิกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ไปที่กรานาดา เพื่อชม Alhambra ซึ่งเป็นป้อมปราการอาหรับขนาดใหญ่สุดอลังการที่สร้างตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 19 ขึ้นไปที่ Alcazaba ซึ่งเป็นป้อมชาวมัวร์บนเนินเขาแล้วมองลงมายังเมือง Almeria ที่อยู่ด้านล่าง
ในแต่ละปี นักท่องเที่ยวหลายล้านคนตบเท้ามาที่ Andalucia เพื่อพักผ่อนบนชายหาด ภูมิภาคนี้ได้รับแสงแดดแผดจ้าไม่ต่ำกว่า 300 วันต่อปี การเที่ยวทะเลที่นี่จึงไม่ได้จำกัดเฉพาะสำหรับฤดูร้อนเท่านั้น หาดที่ได้รับความนิยมสูงสุดได้แก่ Playa Victoria ใน Cadiz ซึ่งเป็นเมืองท่าโบราณ และหาด Marbella ที่ทอดเป็นแนวยาวและเป็นหาดยอดนิยมสำหรับคนดังและเศรษฐี
ใกล้กับเขตแดนกั้นเมอร์เซียมีรีสอร์ตริมทะเลสำหรับผู้นิยมเปลือยกาย Vera Playa ซึ่งว่ากันว่าเป็นโรงแรมสำหรับนักธรรมชาตินิยมแห่งแรกในสเปน ถ้าอยากหลบจากความวุ่นวาย ชายฝั่งขนาดใหญ่ของ Andalucia ก็มีเวิ้งเงียบสงบหลายแห่ง
ชายหาดเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของมนตร์เสน่ห์ทางธรรมชาติในภูมิภาคนี้เท่านั้น ขับรถลุยทะเลทราย Tabernas ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ตะวันตกหลายเรื่อง เดินทางไกลผ่านหุบเขาในภูเขาสูงที่ Alpujarras และไปเล่นสกีใน Sierra Nevada ซึ่งเป็นยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะเหนือเมืองกรานาดา กางเต็นท์ใต้ดวงดาวที่ Sierras de Cazorla ซึ่งเป็นเขตสงวนในจังหวัด Jaen ที่มีทั้งป่าสน เทือกเขา น้ำตก และแม่น้ำ
คุณสามารถเดินทางมาที่ Andalucia ได้หลายทาง นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศส่วนมากจะนั่งเครื่องบินมาลงที่สนามบินใน Malaga, Seville หรือ Almeria ภูมิภาคนี้มีกิจกรรมสันทนาการให้คุณได้เพลิดเพลินในวันหยุดตลอดทั้งปี อีกทั้งยังมีความงดงามทางธรรมชาติและสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่อีกด้วย