Teatro Caser Calderón de Madrid หรือเรียกสั้นๆ ว่า Teatro Calderón ตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมืองหลวงของสเปนพอดี นอกจากนี้ ยังเป็นศูนย์กลางของประวัติศาสตร์ด้านสถาปัตยกรรมของมาดริดอีกด้วย ซึ่งบ่อยครั้งมักได้รับการยกย่องให้เป ็นหนึ่งในอาคารที่น่าประทับใจและสวยงามมากที่สุดของเมือง มาเยือนที่นี่ได้ตลอดเวลาเพื่อเก็บภาพและสำรวจถนนที่คึกคักสายต่างๆ ที่รายล้อมย่านใจกลางเมืองมาดริด ตรวจสอบปฏิทินงานกิจกรรมเพื่อดูว่าจะมีการแสดงโชว์ใดบ้างในระหว่างการมาเยือนของคุณ
อาคารที่งามสง่าแห่งนี้ซึ่งปัจจุบันยังรู้จักกันในชื่อ Teatro Calderón ด้วย เปิดทำการในปี 1917 ภายใต้ชื่อว่า Teatro Odeón สิ่งก่อสร้างได้รับการออกแบบโดย Eduardo Sánchez Eznarriaga สถาปนิกชาวสเปนที่มีชื่อเสียงมากที่สุดท่านหนึ่งในยุคนั้น แม้ว่าเขาจะมีส่วนร่วมในการสร้างอาคารมากมายในระหว่างช่วงชีวิตของเขา แต่เขามีความเชี่ยวชาญในด้านโรงละคร และ Teatro Calderón ก็เป็นตัวอย่างอันยอดเยี่ยมที่แสดงถึงทักษะของเขา
การตกแต่งภายในอาคารมีความประณีตในทุกรายละเอียดเช่นเดียวกันกับส่วนด้านหน้าอาคาร เหยียบย่างเข้าสู่ภายในแ ละทึ่งไปกับโถงอาคารที่มีไฟสีสาดส่องผ่านเข้ามาทางหน้าต่างกระจกสีอันวิจิตร ซึ่งเป็นผลงานการสร้างสรรค์ของบริษัท Casa Mauméjean ผู้เชี่ยวชาญงานฝีมือ แหงนเงยหน้าขึ้นชมโฉมอันตราตรึงของโคมไฟระย้าที่ห้อยตัวอยู่บริเวณเหนือศีรษะ
เข้าไปสู่ภายในหอประชุมและคุณจะได้พบว่าอยู่ท่ามกลางอีกบรรยากาศแห่งความหรูหรา กำมะหยี่สีแดงและรายละเอียดการประดับด้วยสีทองแต่งเติมความงามหรูให้กับห้องที่แสนสวย เพดานมีลักษณะสูงและได้รับการขับเน้นให้โดดเด่นด้วยลวดลายอันวิจิตรที่เป็นฝีมือของ Demetrio Monteserín จิตรกรแห่งศตวรรษที่ 20
ตรวจสอบโปรแกรมของโรงละครได้ตลอดเวลา และคุณจะมีโอกาสที่ดีในการค้นพบบางสิ่งที่สะกดจินตนาการของคุณ ตั้งแต่การแสดงโชว์เต้นรำไปจนถึงการทัวร์แสดงดนตรี โรงละครแห่งนี้เป็นสถานที่จัดการแสดงอันหลากหลาย ชมการแสดงเหล่านี้ใน บรรยากาศที่เป็นส่วนตัวและสวยงาม ซึ่งต่างไปจากที่อื่นๆ ในมาดริด
จากสถานีรถไฟใต้ดิน Tirso de Molina สามารถเดินถึงโรงละคร Teatro Caser Calderón de Madrid ภายในเวลาประมาณ 5 นาที หรือเดินมาเยือนที่นี่ในยามเย็นหลังจากที่สำรวจย่านใจกลางมาดริดมาทั้งวันแล้ว การได้ชมสักการแสดงโชว์ภายในโรงละครที่งามหรูแห่งนี้นับเป็นวิธีที่สมบูรณ์แบบในการปิดท้ายวันของคุณหลังจากที่ดวงอาทิตย์อันสดใสของสเปนลับขอบฟ้าแล้ว
