เชิญสัมผัสเฟรนช์ริเวียร่าและเทือกเขาแอลป์ในเขตโพรวองซ์ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส แม้โพรวองซ์จะมีแหล่งท่องเที่ยวแสนงดงามมากมาย แต่ที่โด่งดังที่สุดก็คือเนินเขาแสนสวยที่ตั้งอยู่ระหว่างทะเลกับยอดเขา เชิญสำรวจทุ่งดอกลาเวนเดอร์ที่มีกลิ่นหอมเย้ายวนใจ รวมทั้งไร่องุ่นและหมู่บ้านแบบยุคกลางบนเขาที่จิตรกรอย่างเซซานและปิกัสโซ่หลงใหล
ประวัติของเขตโพรวองซ์เริ่มตั้งแต่ยุคโบราณ เมื่อชาวกรีกและโรมันเริ่มเข้ามาตั้งถิ่นฐาน เมืองที่เก่าแก่ที่สุดเมืองหนึ่งคือมาร์เซย์นั้น ปัจจุบันเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของฝรั่งเศส เมื่อท่องเที่ยวไปในเมือง คุณจะได้พบกับสถาปัตยกรรมอันน่าตื่นตาตื่นใจ เช่น โบสถ์บนเขา Basilique Notre-Dame de la Garde ที่เคยเป็นป้อมปราการมาก่อน และโบสถ์ Saint Victor Abbey แห่งศตวรรษที่ 5 เมื่อมุ่งหน้าไปทางใต้ของเมือง คุณจะได้สำรวจ Calanques ริมทะเลที่มีผืนน้ำสีฟ้าเขียว
จากนั้นเดินทางกันต่อไปทางทิศตะวันออกเลียบชายฝั่งจนถึงเฟรนช์ริเวียร่า หรือที่เรียกกันว่า Côte d’Azur แนวชายฝั่งความยาว 115 กิโลเมตรนี้ประกอบด้วยเมืองตากอากาศหรูมากมาย และมีเกาะสวยๆ อยู่ใกล้ๆ ขอแนะนำให้แวะเมืองคานส์ เดินเล่นไปตามถนนกว้างริมหาดที่ชื่อว่า La Croisette จากที่นั่น คุณสามารถนั่งเรือไปที่หมู่เกาะ Lérins เพื่อชมป้อมปราการ ชายหาด และสวนป่าได้
หลังท่องเที่ยวไปตามชายฝั่งแล้วก็ขอเชิญเข้ามาสัมผัสพื้นที่แบบเนินเขาของโพรวองซ์ เที่ยวชิมไวน์ใน Côtes de Provence เขตปลูกองุ่นขนาดใหญ่ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ทางฝั่งตะวันออกของโพรวองซ์ อย่าลืมแวะชมสวนลาเวนเดอร์ ซึ่งเป็นองค์ประกอบเด่นที่สุดอย่างหนึ่งของเขตนี้ ขอแนะนำให้มาเยือนในเดือนกรกฎาคมหรือสิงหาคม แล้วคุณจะได้ชื่นชมและสูดกลิ่นหอมจากมวลดอกไม้สีม่วงอ่อนเหล่านี้
ทางตอนเหนือของโพรวองซ์เป็นเทือกเขาแอลป์ที่สูงถึง 4,000 เมตรเหนือทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ในฤดูร้อน คุณอาจเลือกเดินป่าหรือปั่นจักรยานในอุทยานแห่งชาติ Écrins ซึ่งมีหุบเขาน้ำแข็ง 7 แห่งทอดตัวผ่านช่องเขา ส่วนในฤดูหนาว คุณอาจเลือกไปพักในรีสอร์ตสกีสักแห่งบนเทือกเขาแอลป์ซึ่งมีให้เลือกถึง 30 รีสอร์ต
ขอแนะนำให้เดินทางมาโพรวองซ์โดยมาลงที่มาร์เซย์ ซึ่งมีสนามบินนานาชาติขนาดใหญ่และท่าเรือทะเลที่คึกคัก เมื่อมาถึงแล้วก็เช่ารถขับ แล้วคุณก็จะออกตัวจากริมทะเลไปถึงเทือกเขาแอลป์ได้ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง