Belfry of Ghent คือหนึ่งในหอคอยยุคกลางที่สร้างบุคลิกเฉพาะตัวให้กับกลางเมืองเก่า เมื่อมาประกอบเข้ากับมหาวิหาร Saint-Bavo กับโบสถ์ St. Nicholas แล้วจะกลายเป็นสถานที่สำคัญที่ใครเห็นก็จดจำกันได้ทันที เดินสำรวจการตกแต่งภายในอันแสนวิจิตรแล้วขึ้นไปชั้นบนสุดเพื่อชมทัศนียภาพที่สวยที่สุดของเมือง
หอระฆังแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อต้นศตวรรษที่ 14 แต่เนื่องจากสงครามที่ปะทุขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า กว่าจะเสร็จก็ต้องใช้เวลาจนถึงปี 1380 ตัวหอระฆังผ่านการบูรณะมาแล้วหลายครั้งเพื่อรองรับจำนวนระฆังที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตอนแรกหอระฆังถูกนำมาใช้เพื่อจุดประสงค์ทางศาสนาเท่านั้น แต่ต่อมาก็ได้เปลี่ยนมามีบทบาทสำคัญต่อชีวิตในแต่ละวันของชาวเมือง ไม่ว่าจะเป็นการตีระฆังเพื่อประกาศการเปิดตลาด เตือนว่ามีการโจมตี และบอกเวลา คุณจะได้ฟังเสียงระฆังกว่า 50 ใบดังบอกเวลา
บนหอระฆัง มีใบกังหันทองแดงเคลือบทองคำ แกะสลักเป็นรูปมังกร มังกรตัวนี้สร้างขึ้นเมื่อปี 1377 และถือว่าเป็นสัญลักษณ์แทนผู้พิทักษ์เมือง ยอดแหลมของหอระฆังทำจากหินขนาดใหญ่และเพิ่งจะสร้างขึ้นระหว่างการบูรณะหอระฆังในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 อย่าลืมแวะไปชม Triumphanta ระฆังใบเดิมของหอระฆัง ซึ่งปัจจุบันวางอยู่ในสวนใต้หอระฆัง
ภายในหอระฆัง คุณจะสามารถเดินสำรวจชมส่วนต่างๆ หรือจะแวะที่ตู้ขายตั๋วแล้วลงทะเบียนขอใช้บริการมัคคุเทศน์ได้ ซึ่งมีให้บริการทุกวัน พื้นที่ด้านในประกอบด้วย 6 ชั้น เชื่อมต่อกันด้วยโถงบันได
คุณสามารถขึ้นไปชมระฆังได้ที่ชั้น 3 ที่ชั้น 5 คุณจะได้พบกับกลไกนาฬิกาที่สลับซับซ้อนซึ่งทำหน้าที่ควบคุมระฆัง บนชั้น 6 และชั้นบนสุดของหอระฆังเป็นที่ตั้งของห้องระฆัง ชั้นนี้ได้รับการบูรณะในปี 1982 ปัจจุบันมีระฆังอยู่จำนวน 54 ใบ
Belfry of Ghent เปิดให้เข้าชมทุกวัน แต่จะปิดในวันหยุดราชการช่วงเดือนธันวาคมและเดือนมกราคม หากต้องการเข้าชมหอระฆังต้องเสียค่าผ่านประตู สำหรับใครที่ต้องการใช้บริการมัคคุเทศน์ จะต้องเสียค่าบริการเพิ่มเติมด้วย