หวนกลับไปเยือนช่วงเวลาในวันเก่าๆ ที่โบสถ์เซนต์แมรีซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่าสามศตวรรษท่ามกลางอนุสรณ์สถานแห่งอาณานิคมที่มีมนต์ขลัง ไปสัมผัสกับชีวิตของพระที่เป็นบุคคลสำคัญในศาสนาคริสต์ในช่วงระหว่างที่อินเดียตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ โบสถ์เซนต์แมรีตั้งอยู่ในสวนที่เงียบสงบท่ามกลางบรรยากาศที่คึกคักของป้อมเซนต์จอร์จที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ โบสถ์นี้ก่อตั้งโดยสมาชิกของบริษัทอีสต์อินเดียในปี 1678
โบสถ์มีการออกแบบภายนอกที่เรียบง่ายและอยู่ภายใต้ร่มเงาของต้นไม้สูงที่หนาแน่น คุณลักษณะที่เด่นคือยอดแหลมและหอนาฬิกาที่เพิ่มเข้าในช่วงท้ายศตวรรษที่ 17 ที่สำคัญ ผนังที่หนาและหลังคาต่างได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อให้ทนทานต่อสภาพอากาศที่รุนแรง รวมทั้งระเบิด
เข้าไปชมภาพจิตรกรรมและประติมากรรมที่น่าสนใจทางศาสนา รวมทั้งแผ่นจารึกและอนุสรณ์ที่ระลึกต่างๆ ซึ่งได้รวมรวมไว้ภายในโบสถ์ สิ่งของที่จัดแสดงมากมายมีป้ายข้อมูลกำกับเป็นภาษาอังกฤษ ไปเยือนหลุมฝังศพของอดีตผู้ปกครองของป้อมเซนต์จอร์จและบรรดาหัวหน้าทางทหารที่สู้รบในสงครามบนอนุทวีปอินเดีย ชมรูปปั้นหินอ่อนของเจ้ากรมสารบรรณทหารบก Conway และรูปปั้นครึ่งตัวของ Vere Henry Lord Hobart
เดินไปตามทางเดินยาวในโบสถ์และชมความงามของทางเดินระหว่างที่นั่งทั้งสามทางเดินที่ตกแต่งด้วยซุ้มหิน ไปยังแท่นบูชาเพื่อชมภาพจิตรกรรม อาหารมื้อสุดท้าย (Last Supper) ของศิลปินที่ไม่ปรากฏชื่อ ดูทะเบียนที่บันทึกเรื่องการแต่งงาน เช่น การแต่งงานของ Elihu Yale ที่เป็นเศรษฐีใจบุญผู้ร่วมก่อนตั้งมหาวิทยาลัยเยล
โบสถ์ที่ตั้งอยู่ภายใน ป้อมเซนต์จอร์จแห่งนี้ อยู่ในระยะการขับขี่ประมาณ 10 นาทีจากใจกลางเมืองเชนไนและย่านจอร์จทาวน์ สถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีรถไฟป้อมเชนไน แน่นอนว่าในระหว่างการมาเยือนที่นี่ คุณจะได้มีโอกาสสำรวจป้อมเซนต์จอร์จ ซึ่งเป็นป้อมปราการแห่งศตวรรษที่ 17 และยังเคยเป็นสำนักงานใหญ่ของบริษัทอีสต์อินเดียอีกด้วย จุดเด่นที่ไม่ควรพลาดในบรรดาหลายสิ่งหลายอย่างที่จัดแสดงได้แก่ พิพิธภัณฑ์ของป้อมที่มีการจัดแสดงสิ่งของทางการทหารและหอศิลป์ภาพบุคคล
โบสถ์เซนต์แมรีเปิดตั้งแต่วันจันทร์ถึงเสาร์ โดยไม่มีการคิดค่าธรรมเนียมเข้าชม
