มาเลนีเป็นชุมชนศิลปะเล็กๆ ในพื้นที่หลังชายฝั่งซันไชน์โคสต์ สิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากที่สุดคือทิวทัศน์อันงดงามบนจุดชมวิวที่มีอยู่ทั่วเมือง ชมความงามของทุ่งหญ้าสีเขียวที่ปลิวไสวและมองออกไปเห็นเทือกเขา Glasshouse Mountains อันน่าทึ่ง ไร่องุ่ม ฟาร์มโคนม และร้านอาหารดีๆ คือแหล่งเสบียงของภูมิภาค ขณะที่งานศิลปะและงานฝีมือคือคลังสำหรับช้อปปิ้ง คนที่นี่สบายๆ เป็นกันเองและมีวิถีชีวิตไม่เหมือนใคร
มาเลนีตั้งอยู่บนที่ราบสูงแบล็คออลเรนจ์ทางทิศตะวันตกของคาลันดรา ซึ่งเป็นโซนที่ฝนตกชุกที่สุดแห่งหนึ่งของควีนส์แลนด์ ก่อนจะกลายมาเป็นภูมิภาคที่มีชื่อเสียงเรื่องฟาร์มโคนม พื้นที่บริเวณนี้เคยเป็นป่าฝนเขียวชอุ่มที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่เก่าแก่ ผืนป่าส่วนใหญ่ได้รับการแผ้วถางในทศวรรษ 1800 และมีการก่อสร้างเมืองในปี 1891 ฟาร์มโคนมยังคงมีอยู่จนถึงทุกวันนี้ แม้ว่าอุตสาหกรรมหลักในเมืองนี้จะเป็นการท่องเที่ยวก็ตาม เที่ยวชมโรงงานผลิตชีสของมาเลนีเพื่อชิมและซื้อชีสท้องถิ่น ทัวร์ชมฟาร์มโคนมมาเลนีได้ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันเสาร์ จิบชาสักถ้วยพร้อมเลือกซื้อนมสดและโยเกิร์ต
ร้านอาหารและคาเฟ่ทั่วเมืองเสิร์ฟอาหารที่ทำจากผลผลิตที่ดีที่สุดของท้องถิ่น เลือกทานได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นคาเฟ่ที่เสิร์ฟแซนด์วิชและเค้ก ไปจนถึงอาหารแบบฟูลคอร์สที่ภัตตาคารสุดหรู
ซึ้องานศิลปะและงานฝีมือท้องถิ่นในตลาดที่ Maleny RSL ทุกวันอาทิตย์ ร้านเสื้อผ้าและแกลเลอรีหลายแห่งทั่วเมืองยังจัดเก็บผลงานของศิลปินที่อาศัยอยู่ในมาเลนีและบริเวณใกล้เคียงอีกด้วย
ผจญภัยด้วยการเดินขึ้นเขาที่อยู่รอบเมือง เดินไปตามเส้นทางผ่านเขตสงวน Mary Cairncross ซึ่งเป็นแหล่งอนุรักษ์พื้นที่ป่าฝนขนาดใหญ่ทางใต้ของมาเลนี มองผ่านแมกไม้ไปทางเทือกเขา Glasshouse Mountains เพื่อชมทัศนียภาพอันงดงาม ลำธารโอบิโอบีไหลผ่านมาเลนี พร้อมทั้งมีน้ำตกและบ่อน้ำให้เล่น ว่ายในบ่อน้ำธรรมชาติตรงฐานน้ำตกการ์ดเนอร์ที่อยู่ใกล้ๆ กัน คุณสามารถดูแผนที่และเส้นทางได้ที่ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวมาเลนีตรงใจกลางเมือง
มาเลนีตั้งอยู่บนความสูง 450 เมตร (1,476 ฟุต) เหนือระดับน้ำทะเล ใช้เวลาขับรถ 1 ชั่วโมงจากสนามบินบริสเบน และประมาณ 30 นาทีจากคาลันดรา มีที่จอดรถฟรีอยู่ทั่วเมือง คุณต้องอาศัยรถเพื่อไปเที่ยวภูมิภาคโดยรอบ ซึ่งมีทั้งไร่องุ่น จุดชมวิว และรีสอร์ทสไตล์ธรรมชาติ