Machico เป็นเมืองที่มีอ่าวรูปพระจันทร์เสี้ยว ล้อมรอบด้วยเนินลาดชันอันเขียวชอุ่ม ใช้เวลา 2-3 วันในการชมวิวอันงดงามของ Machico และเดินเล่นไปตามทางเดินริมทะเลซึ่งแบ่งเขตเมืองระหว่างถนนหินกรวดแคบๆ กับบรรดาบ้านปูนขาว
ตามตำนานท้องถิ่น เมือง Machico ถูกค้นพบในสมัยศตวรรษที่ 14 โดยคู่รักคู่หนึ่งที่หนีตามกันมาจากบ้านเกิดในเมืองบริสตอล เรือของคู่รักนี้เกิดอับปางจากพายุในอ่าวของ Machico ทั้งคู่เสียชีวิต แต่ลูกเรือได้พยายามหลบหนีออกมาโดยแพและได้นำข่าวจากเกาะมาแจ้งกับประเทศโปรตุเกส จากนั้น นักสำรวจ João Gonçalves Zarco ก็ได้อ้างสิทธิ์ในเกาะมาเดราในปี 1420
อย่าพลาดไปชมวิหาร Capela dos Milagres (วิหารแห่งปาฎิหาริย์) โบสถ์ดั้งเดิมซึ่งพบอยู่ที่เดียวกับที่ตั้งสุสานของคู่รักในศตวรรษที่ 15 และถูกทำลายไปโดยน้ำท่วม โครงสร้างปัจจุบันสร้างขึ้นใหม่ในปี 1815 มีหน้าต่างกุหลาบที่สวยงามด้านหน้าอาคารและทางเดินในโบสถ์ที่ตกแต่งด้วยภาพเขียนปูนปลาสเตอร์บนกำแพง
ชมความสวยงามของการปูกระเบื้องสีฟ้าขาวภายในวิหาร Capela de São Roque วิหารขนาดเล็กนี้สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 16 เพื่อเป็นเกียรติแด่ St. Roch ผู้ที่เคยได้ช่วยชีวิตชาวเมือง Machico จากโรคระบาดรุนแรง
ลงว่ายน้ำที่หาด Praia de Machico หนึ่งในชายหาดที่มีชื่อเสียงที่สุดของมาเดรา จัดเวลาไปทัวร์ดำน้ำที่เขตสงวนพันธุ์สัตว์น้ำใกล้ๆ หรือจะแค่พักผ่อนอยู่บนหาดทรายอุ่นๆ ก็ได้เช่นกัน เดินไปตามทางที่มีชีวิตชีวาและหยุดแวะพักดื่มตามบาร์ริมหาด
ห้ามพลาด Miradouro Francisco Alvares Nobrega หอทัศนาที่จะได้ชมวิวแบบพาโนรามาของหุบเขา Machico Valley และ Ponta de São Lourenço ชมทิวทัศน์ได้อีกที่ Pico do Facho ประภาคารซึ่งเป็นจุดชมวิวที่มีชื่อเสียงและครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ส่งสัญญาณไฟเพื่อเตือนภัยจากโจรสลัด
Machico ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของมาเดรา สามารถเดินทางมาถึงได้ง่ายด้วยรถโดยสารประจำทางจากเมืองฟุงชาลซึ่งอยู่ห่างออกไป 30 กิโลเมตร