ย้อนเวลากลับไปที่สวนยัลเลียนวาลา และหวนระลึกถึงหนึ่งในเหตุการณ์ที่น่าอับอายมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของอินเดีย อนุสรณ์สถานแห่งความทรงจำ หอศิลป์ และงานแสดงแสงและเสียงได้เล่าถึงเหตุการณ์โศกนาฏกรรมของการสังหารหมู่ที่สวนยัลเลียนวาลา ในปี 1919 ทหารอังกฤษได้เปิดฉากยิงใส่เหล่าผู้คนนับพันๆ ที่มารวมตัวกันเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลเบสาขี ซึ่งเป็นเทศกาลเก็บเกี่ยวประจำปีซึ่งจัดขึ้นทั่วรัฐปัญจาบ ปัจจุบัน สวนยัลเลียนวาลา คือสถานที่จาริกแสวงบุญอันศักดิ์สิทธิ์เพื่อเป็นเกียรติแก่เหยื่อที่ล้มตาย
เข้าสู่เรือนเฝ้าประตู และเดินไปตามทางผ่านแคบๆ ที่นำไปสู่สวนที่เงียบสงบในปัจจุบัน ทหารอังกฤษยืนอยู่ที่ทางเข้าแห่งนี้ และกันบรรดาเหยื่อไม่ให้หลบหนี เดินไปตามเส้นทางที่เต็มไปด้วยต้นไม้ เพื่อไปยังอนุสาวรีย์อิฐแดงที่เป็นการแสดงการระลึกถึงผู้เสียชีวิตในที่อื่นที่ล้อมรอบด้วยสระเล็กๆ โคมไฟสี่ดวงส่องสว่างอย่างสวยงามในบริเวณอนุสาวรีย์แห่งนี้ในช่วงค่ำ ชมเปลวไฟที่ไม่มีวันดับมอดที่คอยส่องแสงเรืองรองตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน
กำแพงที่ได้รับการอนุรักษ์อย่างดีซึ่งมีรอยกระสุนที่มองเห็นได้ชัดเจนจำนวนมาก เป็นเครื่องเตือนสำคัญของการระลึกถึงการสังหารหมู่ มองหาบ่อของผู้พลีชีพในศาสนา ซึ่งมีผู้คนกระโดดลงไปแบบไม่คิดชีวิตเพื่อหลบกระสุนปืน ไปที่หอศิลป์ของสวนแห่งนี้ เพื่อชมการถ่ายทอดเรื่องราวการยิง ผลงานภาพถ่าย และภาพคนเหมือนของเหล่าวีรบุรุษในการประกาศอิสรภาพของชาวอินเดีย
อย่าลืมชื่นชมสวนที่เต็มไปด้วยดอกไม้ที่สวยงามบริสุทธิ์แบบธรรมชาติแท้ๆ มีพุ่มไม้กระจัดกระจายอยู่ทั่วสนาม ซึ่งได้รับการตัดตกแต่งเป็นรูปทหารติดอาวุธ ทำความเข้าใจให้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การสังหารหมู่ในระหว่างการแสดงแสงและเสียง การแสดงความยาว 50 นาทีนี้ได้รับการถ่ายทอดจากมุมมองของ Udham Singh ซึ่งเป็นนักปฏิวัติชาวอินเดีย
สวนแห่งนี้ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองเก่าของอมฤตสาร์ ซึ่งอยู่ห่างจากสถานที่ท่องเที่ยวหลักแห่งอื่นๆ ของเมืองในระยะเดินใกล้ๆ สามารถเดินไปยังวิหารทองคำที่สวยงามน่าทึ่งและตลาด Katra Jaimal Singh ที่คึกคักได้โดยใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที นั่งรถแท็กซี่ 10 นาทีจากสถานีรถไฟชุมทางอมฤตสาร์
สวนยัลเลียนวาลาเปิดให้เข้าชมทุกวันและไม่มีการคิดค่าเข้า มีป้ายบอกข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งจะให้รายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่สำคัญและสิ่งประดิษฐ์ภายในสวน ชมการแสดงแสงและเสียงซึ่งจัดให้มีขึ้นทุกวันเป็นภาษาฮินดู
