ชื่นชมสถาปัตยกรรมอันน่าทึ่งของประตู เกตเวย์ ออฟ อินเดีย ซึ่งเป็นอนุสรณ์สมัยอาณานิคมที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของทะเลอาหรับได้ สถานที่อันสำคัญและโดดเด่นแห่งนี้เป็นจุดเริ่มต้นยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการออกสำรวจย่านทางใต้ของมุมไบที่น่าหลงใหล เกตเวย์ ออฟ อินเดีย สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงการเสด็จเยือนมุมไบของสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 5 และสมเด็จพระราชินีแมรี่ โดยเริ่มเปิดทำการในปี 1924 ประตูแห่งนี้สร้างอยู่บนท่าเรือประมงเก่าที่มีชื่อว่าท่าเรือเวลลิงตัน (หรือ อะพอลโล บันเดอร์) และเคยเป็นจุดเทียบเรือสำหรับขุนนางและอุปราชในระหว่างช่วงอาณานิคม
ยืนบนลานกว้างรวมกับฝูงชนที่มีทั้งคนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว และชมความงดงามของประตูที่ได้รับการออกแบบอย่างยิ่งใหญ่ ชมการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมแบบฮินดูและมุสลิม สำรวจดูหลังคาโค้ง เสาที่ตั้งตระหง่าน ลายขัดอันวิจิตร และหอคอยทั้งสี่ ชมรูปปั้นของสวามี วิเวกานันทะ พระอินเดียที่มีชื่อเสียงด้านการเผยแพร่ศาสนาฮินดูให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก ดูนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ถ่ายภาพ ไปนั่งรถเทียมม้า และซื้ออาหารจากแผงลอยข้างทาง
ข้างๆ แม่น้ำ มีสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของมุมไบ นั่นก็คือโรงแรมทัชมาฮาล พาเลซ เดินลงบันไดด้านหลังประตูเพื่อชมทิวทัศน์ของอ่าวมุมไบแบบไม่มีอะไรมาบดบังสายตา ชมเรือเฟอร์รี่หลากสีและเรือประมงลากแหแล่นไปบนผืนน้ำ ล่องเรือรอบอ่าว หรือไปยังถ้ำเอเลแฟนต้า เพื่อชมถ้ำหินแกะสลักสมัยศตวรรษที่ 7
เกตเวย์ ออฟ อินเดีย เป็นแหล่งรวมกิจกรรมคึกคักมากมายตลอดทั้งวัน เดินทางมาที่นี่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ - มีนาคม เพื่อชมการเต้นระบำและดนตรีแบบฮินดี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลเอเลแฟนต้าที่จัดขึ้นที่ถ้ำเอเลแฟนต้า
เกตเวย์ ออฟ อินเดีย ตั้งอยู่ริมแม่น้ำทางฝั่งเหนือสุดของย่านโกลาบา อยู่ห่างจากสถานีฉัตรปติศิวาชี (Chhatrapati Shivaji Terminus) ในระยะทางการขับรถประมาณ 15 นาที และสามารถเดินทางไปถึงได้ง่ายด้วยรถยนต์สามล้อ แท็กซี่ และรถโดยสารสาธารณะ
เมื่อมาถึงที่นี่แล้ว ก็ควรเดินลงใต้ไปตามถนนริมทะเลเพื่อชมทิวทัศน์ของอ่าวมุมไบให้มากยิ่งขึ้น จากที่นี่ คุณสามารถเดินทางไปยังย่านโกลาบาที่คึกคักได้ แวะตลาดโกลาบา คอสเวย์ ซึ่งเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับการเลือกซื้อของโบราณ เสื้อผ้าแบบโบฮีเมียน ลูกปัด เครื่องประดับ และอื่นๆ อีกมากมาย หรือจะตื่นแต่เช้าเพื่อไปดูชาวประมงนำสัตว์ทะเลที่เพิ่งจับได้สดๆ ขึ้นจากฝั่งที่ท่าเรือแซสซูนก็ได้