เดินเล่นไปตามถนนหนทางของวูสเตอร์ แล้วชื่นชมสถาปัตยกรรมมีสไตล์หลายแห่งที่หลงเหลือมาจากผู้อยู่อาศัยชาวดัตช์และอังกฤษในสมัยก่อน ทัวร์ชมโรงบ่มไวน์และโรงกลั่นบรั่นดี หรือใช้เวลาระหว่างวันเดินสำรวจชมเทือกเขาที่อยู่รอบๆ ไปที่พิพิธภัณฑ์เพื่อรับรู้ชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรผู้เคยทำไร่ที่นี่มาก่อนใคร หรือฆ่าเวลาโดยการเดินชมแกลเลอรีศิลปะต่างๆ
เมืองเกษตรกรรมวูสเตอร์นับย้อนกลับไปได้ถึงปี 1819 และเป็นเมืองหลวงของย่าน หุบเขาแม่น้ำ Breede ตั้งอยู่บนถนนสายหลักระหว่างเคปทาวน์, โจฮันเนสเบิร์ก และพอร์ตเอลิซาเบท เส้นทางไวน์และบรรยากาศผ่อนคลายของที่นี่เป็นตัวดึงดูดนักท่องเที่ยวจากรอบโลก
ใช้เวลาสักครู่ออกเดินสำรวจไปในย่านใจกลางเมืองขนาดไม่ใหญ่โต Church Street คือสถานที่ที่คุณจะได้พบอาคารเก่าแก่ของเมือง แวะพักที่โบสถ์ Congregational Church เพื่อดูสถาปัตยกรรมรูปแบบดัตช์โดยทั่วไป เป็นการยากที่จะพลาดสายตาชมโบสถ์คริสตจักรปฏิรูปดัตช์ ซึ่งมียอดหลังคาทรงฟื้นฟูกอธิคสูงตระหง่าน
วูสเตอร์และบริเวณข้างเคียงมอบโอกาสหลากหลายสำหรับผู้ที่ต้องการทำกิจกรรมกลางแจ้ง ชมสวนพฤกษศาสตร์แห่งชาติทะเลทราย Karoo ซึ่งมีพืชพรรณกึ่งทะเลทรายจัดแสดงอยู่ในเนื้อที่ 381 เอเคอร์ (154 เฮกตาร์) Garden of Remembrance ซึ่งเล็กลงมาก็เป็นที่ที่ควรแวะชม ออกแบบโดยศิลปินท้องถิ่น Hugo Naude คุณสามารถชมผลงานของเขาและศิลปินท้องถิ่นอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ Hugo Naude and Jean Welz Gallery
ทัวร์ชมโรงบ่มไวน์และโรงกลั่นบรั่นดีของท้องถิ่นโดยรอบบริเวณ ในท้องที่นี้มีไร่องุ่นอยู่หลายสิบแห่งด้วยกัน คุณจึงจะได้ชิมไวน์หลากหลายประเภทอย่างแน่นอน หากคุณชอบบรั่นดีต้องห้ามพลาดไปที่ KWV Brandy Cellar โดยเด็ดขาด ที่นี่เป็นโรงกลั่นบรั่นดีภายใต้หลังคาเดียวที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง
ตำแหน่งที่ตั้งไม่ติดทะเลของวูสเตอร์ทำให้อุณหภูมิของที่นี่ขึ้นลงจัดกว่าเคปทาวน์ที่อยู่ใกล้กัน ฤดูร้อนโดยทั่วไปมักร้อนและแห้ง ส่วนฤดูหนาวมีหิมะตกเป็นปกติตามภูเขา ความหลากหลายของสถานที่ท่องเที่ยวทำให้วูสเตอร์เป็นที่ที่น่ามาเยือนตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะแค่แวะพักระหว่างทางไปเคปทาวน์ หรือจะอยู่สบายๆ หลายวันก็ตามที