แม่น้ำเอวอนไหลผ่านซอลส์บรี เมืองแห่งโลกใบเก่าซึ่งเป็นที่รู้จักสำหรับโบราณสถานยุคหินใหม่และยุคสัมฤทธิ์อันเป็นสัญลักษณ์ อาสนวิหารหลังมโหฬารที่มีการออกแบบในศิลปะอังกฤษรุ่นแรกๆ ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองใกล้กับสถานที่สำคัญที่น่าหลงใหล เรียนรู้เกี่ยวกับการตั้งรกรากของมนุษย์ตั้งแต่ 2,000 ปีก่อน ในขณะที่คุณสำรวจแหล่งประวัติศาสตร์
ขึ้นเหนือไปเที่ยวชมโบราณสถานที่โด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งในโลก สโตนเฮนจ์ ตื่นตาตื่นใจไปกับแท่งหินที่ตั้งเป็นวงกลมราวๆ 2,000 ถึง 3,000 ปีมาแล้ว เรียนรู้เกี่ยวกับคูที่ล้อมรอบ ซึ่งมีอายุเก่ากว่านั้นเสียอีก หลายๆ ทฤษฏีพยายามอธิบายความหมายของแท่งหินเหล่านี้ แต่ดูเหมือนว่าน่าจะเป็นสุสานมากที่สุด
เดิน 3 กม. ข้ามเส้นทางธรรมชาติ เพื่อสำรวจวู้ดเฮนจ์ ซึ่งไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก ปัจจุบัน ใช้แท่งคอนกรีตแทนโครงไม้ที่เคยยึดโครงสร้างวงกลมเข้าไว้ด้วยกัน มองหาคูน้ำที่เหลืออยู่รางๆ ที่ล้อมรอบวงแหวนรูปไข่
ในขากลับเข้าเมือง แวะที่โบราณสถานบนเนินเขาโอลด์เซรัม เพื่อชมปราสาทนอร์มันของที่นี่ ข้ามสะพานข้ามคูเดิมสองคู เพื่อไปที่ซากกำแพงของปราสาท สังเกตแผนผังของอดีตอาสนวิหาร
กลับเข้าไปในตัวเมืองไปชมอาสนวิหารซอลส์บรี พบกับนาฬิกาที่ยังทำงานได้ที่น่าจะเก่าแก่ที่สุดในโลกได้ที่นี่ พร้อมกับมหากฎบัตรของอังกฤษ หนึ่งในสี่ฉบับเท่านั้นที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ แหงนมองไปบนยอดหลังคาโบสถ์ที่สูงที่สุดของประเทศ และไปเที่ยวชมหอคอย โบราณวัตถุก่อนประวัติศาสตร์จากภูมิภาคนี้ จัดเก็บอยู่ในพิพิธภัณฑ์ซอลส์บรีในคฤหาสน์หลังมโหฬาร
เมืองนี้อยู่ในพื้นที่ที่อากาศแจ่มใสที่สุดในอังกฤษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีแสงแดดและอากาศที่อบอุ่นในเดือนกรกฎาคม ฤดูหนาวอากาศค่อนข้างหนาวเย็นและเปียกชื้น
ซอลส์บรีเป็นเพียงเมืองเดียวในเทศมณฑลในชนบทวิลต์เชียร์ โดยอยู่ติดกับที่ราบซอลส์บรี ภูมิภาคที่มีภูมิประเทศขาวโพลนในด้านตะวันออกเฉียงใต้ของเทศมณฑล มีรถไฟเดินทางออกเป็นประจำจากลอนดอน โดยมาถึงเมืองที่มีเสน่ห์แห่งนี้ภายใน 90 นาที โดยใช้เวลาเพิ่มขึ้นอีกราวๆ 1 ชั่วโมง หากขับรถไปทางตะวันตกเฉียงใต้จากเมืองหลวงในระยะ 142 กม.
เดินทางย้อนไปยังยุคก่อนประวัติศาสตร์ในท้องทุ่งและเนินเขาเขียวขจีที่น่าเพลินตาเพลินใจของซอลส์บรี