ป้อมรันธัมบอร์เป็นปราสาทขนาดมหึมาท่ามกลางพื้นที่ชนบทอันขรุขระของอุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของราชาสถาน สถานที่สำคัญที่ได้รับการคุ้มครองโดย UNESCO แห่งนี้ตั้งอยู่บนยอดเนินและบันทึกไว้ซึ่งเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และเวทมนตร์ของกษัตริย์ ผู้แสวงบุญ และทหารที่ครั้งหนึ่งเคยเหยียบย่างบนผืนดินนี้ เดินเล่นไปตามตรอกของป้อมรันธัมบอร์ที่รกเรื้อไปด้วยต้นไม้เพื่อไปพบกับท่าอาบน้ำศักดิ์สิทธิ์ โดม และวัด ขึ้นไปยังป้อมปราการเพื่อชมวิวอันกว้างไกลและยังมีโอกาสได้ชมสัตว์ป่าอีกด้วย
ตามหลักทฤษฎีที่เป็นที่นิยม กล่าวไว้ว่า ป้อมนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ. 944 โดย Chauhan Rajputs บนตำแหน่งยุทธศาสตร์ที่อยู่ระหว่างเส้นทางการค้าเก่าแก่สองเส้น ในระหว่างช่วงประวัติศาสตร์หนึ่งพันปี ป้อมนี้ได้ผ่านมือของราชวงศ์ Ghurids, สุลต่านแห่งเดลลี, ราชวงศ์กาชวาหา และราชวงศ์โมกุล แต่ละฝ่ายต่างช่วยกันกำหนดรูปแบบเครือข่ายของพื้นที่ลานกว้าง ประตู ศาลา ทาง และบันไดที่ยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน
เหยียบย่างไปตามเส้นทางลาดเอียงและขึ้นบันไดไปบนกำแพง Badal Mahal ที่อยู่บริเวณปลายด้านเหนือสุดของป้อม พื้นที่นี้เป็นส่วนที่เปิดรับทัศนียภาพที่ดีที่สุดของสิ่งก่อสร้างนี้และอุทยานแห่งชาติที่แวดล้อม ชมนกอินทรี เหยี่ยว นกยูง นกแร้ง และนกประจำถิ่นอื่นๆ อีก 250 ชนิดของอุทยาน ผู้มาเยือนที่โชคดีอาจมีโอกาสได้เห็นเสือตัวใหญ่ในขณะที่มันกำลังเที่ยวด้อมๆ มองๆ อยู่ในทุ่งหญ้า
ภายในปราสาทมีวิหารอยู่ห้าหกแห่ง ซึ่งมักมีผู้แสวงบุญมาเยือนบ่อยครั้ง ส่วนหนึ่งเป็นศาลที่สักการะบูชาเทพเจ้าฮินดู อาทิ พระพิฆคเณศร์ พระราม และพระศิวะ นอกจากนี้ ยังมีวัดของศาสนาเชนและฉัตรี (ศาลารูปทรงโดม) ที่มีเสารองรับอยู่ 32 เสา ชมลิงค่างเล่นอยู่ในวัดและไปผ่อนคลายให้สบายใจที่ท่าน้ำ สำรวจดูประติมากรรมหินที่เป็นรูปเทพเจ้าและสัตว์ในเทพนิยาย
เมืองสวายมโธปูร์ที่อยู่ห่างออกไปทางด้านตะวันตก 17 กิโลเมตร ถือเป็นประตูหลักที่เปิดสู่ป้อมแห่งนี้ ใช้บริการรถจี๊ปแท็กซี่แบบนั่งรวมกันหรือส่วนตัว ซึ่งมีให้บริการตลอดทั้งวันระหว่างเมือง ป้อม และสวน
คุณสามารถมาเยือนป้อมรันธัมบอร์ได้ตั้งแต่เวลาพระอาทิตย์ขึ้นจนพระอาทิตย์ตกโดยไม่ต้องเสียค่าเข้าชม ส่วนด้านตะวันออกของป้อมเป็นพื้นที่ต้องห้ามเนื่องจากมีสัตว์ป่าเดินท่องไปมาอยู่โดยอิสระ
