ก้าวผ่านแลนด์มาร์คที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองที่ปอร์ตาอัลลาร์โก ประตูโค้งแห่งนี้ เดิมสร้างขึ้นโดยชาวอีทรัสคัน อารยธรรมก่อนยุคโรมันผู้อยู่อาศัยในเมืองนี้มาก่อน ใช้เวลาพิจารณาเรื่องลึกลับของผู้อยู่อาศัยรุ่นแรกๆ ของโวลแตร์รา ก่อนที่จะข้ามประตูโค้งไปสำรวจเมืองเก่าของทัสคานีที่ชวยให้หลงใหล
มองหารายละเอียดที่แตกต่างกันในประตูโค้งจากศตวรรษที่แตกต่างกันของชีวิตของชาวอีทรัสคัน เสาประตูที่สร้างจากหินทรายมีอายุย้อนกลับได้ถึงต้นศตวรรษที่ 4 ก่อนคริสตกาล ส่วนประตูโค้งและรูปปั้นถูกสร้างขึ้นหลังจากนั้นเล็กน้อยในศตวรรษถัดไป ป้อมปราการยุคกลางเข้ามาแทนที่กำแพงอีทรัสคันในศตวรรษที่ 13 แต่ประตูแห่งนี้ถูกรวมเข้ามาในบริเวณใหม่
พบกับสามศีรษะที่ประดับซุ้มโค้งของประตู กาลเวลาสองสหัสวรรษได้กัดกร่อนรายละเอียดบนวัตถุโบราณเหล่านี้ จนยากที่จะรู้ได้ว่ามันแสดงถึงอะไรกันแน่ บางท่านเสนอว่าเป็นโจฟ จูโนและมิเนอร์วา เทพผู้พิทักษ์ของเมืองโวลแตร์รา
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับประตูโค้งและผู้ที่สร้างได้ที่พิพิธภัณฑ์กัวร์นาคชี อีทรัสคัน ชมภาพประกอบโบราณของประตูเมืองที่ถูกล้อมโจมตี เพื่อรับรู้ความรู้สึกว่าเหตุการณ์ในอดีตนั้นเป็นอย่างไร โกศบรรจุอัฐิที่แกะสลักอย่างสวยงามและการจัดแสดงแบบโต้ตอบได้ ช่วยฟื้นช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ที่ลึกลับนี้คืนสู่ชีวิต
เดินลอดประตูโค้งเพื่อเข้าไปในใจกลางเมืองเก่าของโวลแตร์รา เดินขึ้นเหนือ 5 นาที เพื่อสำรวจปิอัซซาเดยปริยอรี จัตุรัสยุคกลางที่ได้รับอนุรักษ์อย่างประณีต ซึ่งมีจุดสนใจสำคัญอยู่ที่วังปริยอรี ซึ่งสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 และปัจจุบันทำหน้าที่เป็นศาลากลางเมืองโวลแตร์รา อาสนวิหารซานตามาเรีย อัสสุนตา อยู่ห่างจากประตูเมืองเพียงเล็กน้อยเช่นกัน และมีลักษณะภายในที่น่าตื่นตาตื่นใจ ประดับประดาด้วยผลงานศาสนศิลป์ที่น่าประทับใจ
ปอร์ตาอัลลาร์โกตั้งอยู่ใกล้ๆ ใจกลางเมืองโวลแตร์รา ขึ้นรถประจำทางไปที่ฐานของปอร์ตาอัลลาร์โก แล้วเดินขึ้นเนินมายังโบราณสถานแห่งนี้ หรือไม่ก็เดินมาที่นี่พร้อมๆ ไปกับเดินสำรวจย่านเมืองเก่าของโวลแตร์รา
