อุทยานแห่งชาติ Point Pelee มีสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวหลายอย่าง ทั้งสภาพภูมิอากาศที่ไม่เหมือนที่อื่น ป่าแบบ Carolinian หนองน้ำ ชายหาด และสัตว์ป่า ส่วนที่เป็นป่าไม้นั้นกินพื้นที่เกือบ 15 ตารางกิโลเมตร และเป็นเส้นทางหลักที่นกและผีเสื้อโมนาร์คบินอพยพ พายเรือในบึง เดินตามเส้นทางในป่า แล้วดูนกสายพันธุ์หายาก
อุทยานแห่งชาตินี้ตั้งอยู่ในเขตป่า Carolinian ซึ่งมีอุณหภูมิอบอุ่นกว่าบริเวณอื่นๆ ในทวีปอเมริกาเหนือที่ตั้งอยู่บนเส้นละติจูดที่ใกล้เคียงกัน จึงส่งผลให้บริเวณนี้มีความหลากหลายทางชีวภาพ
เริ่มต้นการท่องเที่ยวของคุณที่ศูนย์ให้บริการนักท่องเที่ยซึ่งจัดแสดงสถานที่เด่นๆ หลายแห่งในสวน ตั้งแต่เดือนเมษายนถึงเดือนตุลาคม คุณสามารถนั่งรถชัตเทิลบัสจากศูนย์นี้ไปจนถึง The Tip ซึ่งเป็นจุดใต้สุดของแผ่นดินแคนาดาได้ จากนั้นเดินเที่ยวเองในป่าหรือจะใช้บริการไกด์นำเที่ยวเพื่อรับข้อมูลอย่างละเอียดก็ได้
เดินผ่านป่าต้นซีดาร์สีแดง ต้นวิลโลว์ ต้นฮอป และต้นฝ้ายที่ปลูกใหม่ เดินต่อไปในส่วนที่เก่าแก่กว่าซึ่งดูเหมือนป่าดงดิบ เพราะมีใบไม้หนาทึบจนแสงแดดส่องมาไม่ถึง
พายเรือแคนูหรือคายักในหนองน้ำจืด ฟังเสียงต่างๆ รอบบึงพร้อมกับสังเกตเห็นเต่า กบ งู และหนู คุณยังเดินชมบริเวณอื่นๆ ของหนองน้ำได้โดยเดินตามทางเดินไม้กระดาน หรือจะเช่าจักรยานแล้วขี่ไปตามเขาบนเส้นทาง Centennial Bike and Hike Trail โดยมีจุดเริ่มต้นใกล้กับ Marsh Boardwalk ก็สนุกไม่แพ้กัน
ถ้าคุณสนใจส่องสัตว์ป่า ก็อย่าลืมไปดูนกอพยพย้ายถิ่นประจำปีในช่วงฤดูใบไม้ร่วงและฤดูใบไม้ผลิ นกกว่า 390 สายพันธุ์ได้รับการบันทึกไว้ที่นี่ในระหว่างฤดูใบไม้ร่วงและฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งรวมถึงนกสายพันธุ์ที่ร้องเพลงได้อีกจำนวนมาก คุณยังจะเห็นผีเสื้อโมนาร์คฝูงใหญ่ที่จะย้ายถิ่นในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิที่นี่ด้วย
ในช่วงที่อากาศอบอุ่น คุณสามารถไปว่ายน้ำที่ชายหาดสักแห่ง แล้วเพลิดเพลินไปกับการปิกนิกที่บริเวณสำหรับปิกนิกชื่อ White Pine แต่ที่นี่จะปิดบริการในช่วงหน้าหนาว
อุทยานแห่งชาติ Point Pelee อยู่ห่างจากเมืองวินด์เซอร์ในออนแทรีโอมาทางตะวันตกเฉียงใต้ 64 กิโลเมตร เวลาทำการนั้นจะแตกต่างกันไปตามฤดูกาล ตรวจสอบข้อมูลที่เว็บไซต์ของอุทยานเพื่อดูข้อมูลล่าสุด มีการเก็บค่าเข้าอุทยาน และมีบริการที่จอดรถรวมถึงห้องน้ำด้วย