นอร์ทเวสต์เทร์ริทอรีส์มีลักษณะผสมผสานระหว่างดินแดนแคนาดาที่อยู่ข้างเคียงทั้ง 2 ฝั่ง โดยนอกจากครอบคลุมพื้นที่รกร้างว่างเปล่าแถบอาร์กติกทางตอนเหนือสุดเป็นบางส่วนเหมือนนูนาวุตที่อยู่ติดกันทางฝั่งตะวันออกแล้ว นอร์ทเวสต์เทร์ริทอรีส์ก็ยังมีเครือข่ายระบบคมนาคมที่ดีเหมือนยูคอนด้วย เดินทางจากลุ่มแม่น้ำกลางหุบเขาที่มีป่าปกคลุมไปยังเขตอาร์กติกที่มีภูมิประเทศกันดารได้โดยสะดวก ภายในดินแดนกว้างใหญ่ใจกลางเขตแดนตอนเหนือของแคนาดาแห่งนี้
เยลโลว์ไนฟ์คือเมืองใหญ่ที่สุดและเมืองหลวงของนอร์ทเวสต์เทร์ริทอรีส์ อยู่ริมฝั่งทิศเหนือของทะเลสาบ Great Slave ขนาดมหึมา ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของดินแดน เยี่ยมชมย่านเมืองเก่าบนคาบสมุทรแคบๆ อาคารดั้งเดิมในเมืองจากช่วงทศวรรษปี 1930 ยังหลงเหลืออยู่มาก รวมถึงกระท่อมไม้ซุง Wildcat Café ที่เปิดตั้งแต่ปี 1937 ในช่วงฤดูหนาว คุณอาจขับไปบนถนนน้ำแข็ง Dettah ซึ่งลัดข้ามผิวน้ำแข็งของทะเลสาบ ชมปราสาทน้ำแข็งที่สร้างขึ้นเป็นประจำทุกปีบนทะเลสาบน้ำแข็ง
มุ่งหน้าต่อไปยังปลายสุดทิศเหนือของแผ่นดินใหญ่ ที่เมือง Inuvik เยือนโบสถ์คาทอลิกแม่พระแห่งชัยชนะ ศาสนสถานที่ออกแบบมาให้มีรูปทรงคล้ายอิกลู แรกสร้างเมื่อปี 1960 ก่อนจะถูกเพลิงเผาทำลายในปี 2005 จากนั้นจึงสร้างใหม่อีกครั้ง สำรวจพื้นที่สามเหลี่ยมกว้างขวางที่แม่น้ำ Mackenzie ซึ่งเป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดของแคนาดาและตั้งอยู่ไม่ไกลออกไปมากนัก ทางน้ำอันทรงพลังนี้ไหลตัดผ่านตลอดความยาวดินแดนนอร์ทเวสต์เทร์ริทอรีส์
จากเมือง Inuvik คุณสามารถขึ้นเครื่องบินหรือเรือไปยังกลุ่มเกาะอาร์กติกของนอร์ทเวสต์เทร์ริทอรีส์ได้ ท่าเรือ Sachs บนเกาะ Banks คือเมืองเหนือสุดของดินแดน ใช้ที่นี่เป็นทางผ่านไปสู่อุทยานแห่งชาติ Aulavik ที่ลุ่มอาร์กติกกว้างใหญ่ขนาด 12,200 ตารางเมตร เดินทางต่อไปยัง Ulukhaktok บนเกาะวิกตอเรีย แล้วเล่นกอล์ฟบนสนามขนาด 9 หลุมอันน่าประทับใจ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตทุนดราที่มีหญ้าเทียม
เริ่มต้นท่องเที่ยวนอร์ทเวสต์เทร์ริทอรีส์โดยบินจากเมืองเอ็ดมันตันหรือคาลการีมาลงที่เยลโลว์ไนฟ์ จากนั้น จะนั่งเครื่องบินหรือขับรถต่อไปยังแถบทิศเหนือของดินแดนก็ได้ ระหว่างอยู่ที่นี่ ขอให้คุณคอยเฝ้าชมแสงเหนือ เพราะบางพื้นที่ของนอร์ทเวสต์เทร์ริทอรีส์มีแสงเหนือปรากฏให้เห็นเกือบ 250 คืนต่อปี