โครงสร้างแบบโกธิกขนาดใหญ่ของวิหาร Dinant ตั้งตระหง่านเหนือแม่น้ำมูส เงาของวิหารแคธอลิกเก่าแก่แห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งกับท้องฟ้าของเมือง Dinant มาตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 13 ร่วมสำรวจโครงสร้างสถาปัตยกรรมที่งดงามและเดินชมภายในวิหารเพื่อดื่มด่ำกับความงดงามของหน้าต่างกระจกสี
วิหารนี้มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า Notre Dame de Dinant (Our Lady of Dinant) และสร้างขึ้นเพื่อแทนที่วิหารแบบโรมาเนสก์ก่อนหน้าซึ่งพังทลายลงในปี 1228 ตัวอาคารได้รับการบูรณะขึ้นใหม่และผ่านการซ่อมแซมมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง รวมถึงช่วงหลังจากสงครามโลกทั้งสองครั้งในช่วงศตวรรษที่ 20 ด้วย
เริ่มต้นการสำรวจวิหารแห่งนี้โดยการชื่นชมโครงสร้างภายนอกจากบริเวณจัตุรัส สังเกตลักษณะที่เป็นสัญลักษณ์ของการตกแต่งแบบโกธิก เช่น ซุ้มกระจกโค้ง และยอดแหลม ไฮไลท์เด่นคือยอดที่โป่งนูน ซึ่งก่อสร้างเพิ่มภายหลังในช่วงศตวรรษที่ 16
เมื่อเข้ามาภายในซึ่งได้รับการตกแต่งแบบบาโรกแล้ว อย่าลืมมองขึ้นไปที่เพดานโครงสร้างโค้งและเสาสูงที่รับน้ำหนักของหลังคา ชื่นชมภาพวาดฝีมือ Antoine Wiertz ศิลปินสไตล์โรแมนติกยุคศตวรรษที่ 19 ซึ่งเกิดที่ Dinant ภาพวาดดังกล่าวมีชื่อว่า We'll Meet Again in Heaven (เราจะพบกันอีกครั้งบนสรวงสวรรค์) ซึ่งเขาอุทิศผลงานนี้ให้กับพ่อแม่ ชื่นชมความงดงามของสีสันและการออกแบบของหน้าต่างกระจกสี ลวดลายบนกระจกแต่ละบานแตกต่างกัน บางส่วนเป็นรูปทรงเรขาคณิต และบางส่วนเป็นรูปของบุคคลทางศาสนา อาทิ ศาสดาพยากรณ์อิไซยาห์
ยืนชมความงดงามของงานการประดับทองคำที่งดงามด้านหน้าแท่นบูชาหลัก ด้านบนเหนือศีรษะของคุณคือกางเขนขนาดยักษ์พร้อมร่างที่ถูกตรึงของพระเยซู จุดเด่นอื่นๆ ที่น่าสนใจภายในวิหารแห่งนี้ ได้แก่ อ่างล้างบาปจากยุคศตวรรษที่ 15 และแท่นเทศน์ Dinanderie จากยุคศตวรรษที่ 18 ซึ่งเป็นผลงานเครื่องทองเหลืองรูปแบบหนึ่งที่สร้างขึ้นใน Dinant ในช่วยปลายยุคกลาง
วิหาร Dinant แห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางตัวเมืองตรงทางขึ้นป้อมปราการ สามารถเดินทางมาที่นี่ได้โดยนั่งรถไฟมาลงที่ Gare de Dinant จากนั้นข้ามสะพานเหนือแม่น้ำมูสเพื่อไปที่โบสถ์ วิหารเปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เช้าจรดเย็นโดยไม่เก็บค่าเข้าชม