เคปเจอร์วิสเป็นเมืองเล็กๆ ตั้งอยู่ที่ส่วนปลายสุดทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของคาบสมุทรฟลอริเออร์ แม้จะมีขนาดเล็กแต่เมืองแห่งนี้กลับเต็มไปด้วยความงดงามทางธรรมชาติและการผจญภัยกลางแจ้ง อีกทั้งยังเป็นประตูสู่แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ของเกาะแคงการูเปิดในหน้าต่างใหม่อีกด้วย ท่องเที่ยวไปในป่าและเทือกเขา ชมจิงโจ้และสัตว์ป่าชนิดอื่นๆ และลิ้มลองไวน์และเหล้ายินท้องถิ่น
สำรวจทิวทัศน์ของผืนป่าและธรรมชาติในพื้นที่ จากนั้น ออกจากตัวเมืองและขับรถไปทางตะวันออกราว 20 นาทีเพื่อไปยัง อุทยานอนุรักษ์ดีพครีก เที่ยวชมเขตอนุรักษ์ริมชายฝั่งคาบสมุทรฟลอริเออร์แห่งนี้ ซึ่งมีเนินเขาเขียวขจีและเป็นที่อยู่อาศัยของจิงโจ้ ตัวตุ่น และนกหลากหลายสายพันธุ์ เดินป่าไปตามเส้นทางเดินและพักค้างแรมในพื้นที่ตั้งแคมป์สักแห่ง
จากนั้น เดินเท้าต่อไปตลอดทั้งวันหรือเดินไปตามเส้นทาง เฮย์เซน เทรล ที่ไกลออกไป เส้นทางเดินยาว 1,200 กิโลเมตรนี้ทอดยาวจากเคปเจอร์วิสไปจนถึง ช่องเขาพาราชิลนา ผ่านผืนป่า ไร่องุ่น เทือกเขา เมืองทางประวัติศาสตร์ และฟาร์มต่างๆ นอกจากนี้ คุณจะพบเส้นทางเดินสวยงามพาดผ่านหน้าผาและแหลมที่เป็นโขดหินของ แรพิดเบย์ ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองไปทางเหนือ 16 กิโลเมตรด้วยเช่นกัน
หากต้องการสัมผัสความงดงามทางธรรมชาติที่โดดเด่นเพิ่มเติม ขึ้นเรือโดยสารข้ามฟากสำหรับรถยนต์ไปยังเกาะแคงการู ซึ่งแต่ละเที่ยวใช้เวลาประมาณ 45 นาที เดินเล่นบนชายหาด ไปชมรังสิงโตทะเล และผจญภัยในโลกใต้ดินที่เต็มไปด้วยหินปูนที่ ถ้ำเคลลี่ ฮิลล์ จากนั้น พิชิต เส้นทางเดินป่าเกาะแคงการู ยาว 66 กิโลเมตร และเพลินเพลินกับสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ บนเกาะ อาทิ อุทยานสัตว์ป่า โรงบ่มไวน์ โรงกลั่น และเมืองและหมู่บ้านริมทะเล พักค้างคืนในโรงแรม ที่พักริมทาง และจุดตั้งแคมป์และคาราวาน
เมื่อกลับไปที่แผ่นดินใหญ่ แวะเยือน ประภาคารเคปเจอร์วิส ซึ่งสว่างขึ้นครั้งแรกในปี 1871 แต่หอคอยปัจจุบันมีอายุเก่าแก่ตั้งแต่ปี 1972
เดินทางสู่เคป เจอร์วิสด้วยการขึ้นเครื่องบินมาลงที่สนามบินนานาชาติแอดิเลด จากนั้น เช่ารถยนต์วิ่งไปตามถนนเมนเซาท์โร้ดนอกเมือง ระยะเวลาขับรถไปยังจุดหมายปลายทางเพื่อชมความงดตามธรรมชาติ สัตว์ป่าที่น่าทึ่ง และสำรวจเกาะแห่งนี้ราว 2 ชั่วโมง
