อันตีกัวเป็นเมืองแห่งหนึ่งบนเกาะ Fuerteventura ของสเปน สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 18 ตั้งอยู่บริเวณใจกลางเกาะ บรรยากาศแวดล้อมไปด้วยชนบทอันงดงาม และขนาบข้างด้วยเทือกเขา ทัศนียภาพที่สวยงามเป็นเสน่ห์เพียงอย่างหนึ่งของอันติกัวเท่านั้น ลองแวะชมสิ่งปลูกสร้างทางประวัติศาสตร์และแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม พร้อมเพลิดเพลินไปกับชายฝั่งที่สวยงาม เข้าชมด้านในโรงสีที่มีอายุมากกว่า 200 ปี เดินท่องป่าไปบนเทือกเขาสูงในหุบเขา และแวะถ่ายภาพคู่กับรูปปั้นกษัตริย์ขนาดยักษ์ของ Fuerteventura ในอดีต
เดินเล่นไปตามท้องถนนที่เงียบสงบเพื่อไปยัง โบสถ์ Cruz de los Caldos ซึ่งมีอายุเก่าแก่ตั้งแต่ปี 1785 ออกไปด้านนอกเพื่อเยือนจัตุรัสขนาดเล็กที่ประดับตกแต่งด้วยดอกไม้และต้นปาล์มมากมาย เหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างยิ่ง
แวะเยือน Museo del Queso Majorero เพื่อเรียนรู้การทำชีส Majorero และสาธิตการใช้เครื่องจำลองเพื่อผลิตนม ชมโรงสีลมจากศตวรรษที่ 19 ซึ่งได้รับการบูรณะอย่างสมบูรณ์ และครั้งหนึ่งเคยใช้เป็นที่เก็บเมล็ดพืชของเมือง เดินเข้าด้านในเพื่อชมเครื่องจักรของแท้ดั้งเดิม แวะอาคารที่ตั้งอยู่ติดกับโรงสีลมเพื่อชมการจัดนิทรรศการศิลปะชั่วคราวและคอลเลกชันวัตถุสำคัญเชิงโบราณคดีแบบถาวรจาก Butihondo gully หลังจากนั้น ลัดเลี้ยวไปตามพืชพันธุ์พื้นเมืองต่างๆ ภายในสวนของศูนย์ และซื้อผลิตภัณฑ์ของช่างฝีมือท้องถิ่นในร้านค้า
หากต้องการสัมผัสความงดงามตามธรรมชาติเพิ่มเติม ลองไปสำรวจอนุสาวรีย์ธรรมชาติ Cuchillos de Vigán ที่เต็มไปด้วยเทือกเขารูปร่างคล้ายกริชเรียงต่อกัน สำรวจบริเวณหุบเขาที่ตั้งอยู่ระหว่างเทือกเขาที่มีพืชพื้นเมือง ซากโบราณทางทะเล และสายพันธุ์แรปเตอร์ที่หาดูได้ยาก
ไปเยือน จุดชมวิว Guise และ Ayose เพื่อชมทัศนียภาพอันงดงามบริเวณตอนเหนือของเกาะ ชมรูปปั้นทองแดงขนาดใหญ่สูงเกิน 4.5 เมตรของ Guise และ Ayose สองกษัตริย์โบราณของเกาะแห่งนี้
พื้นที่ในเกาะของอันติกัวอยู่ติดกับทะเลเช่นกัน ใช้เวลาขับรถประมาณ 20 นาทีจะถึง Caleta de Fuste ซึ่งเป็นสถานที่พักตากอากาศริมชายหาดบนชายฝั่งด้านตะวันออกของเกาะ
นั่งเครื่องบินมาลงที่สนามบินฟวยร์เตเบนตูรา ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองไปประมาณ 22 กิโลเมตร เพื่อเดินทางไปยังอันติกัว เดินทางท่องเที่ยวต่อโดยใช้แท็กซี่หรือรถเช่า แล้วเพลิดเพลินกับประวัติศาสตร์ของเมืองและธรรมชาติโดยรอบ