Kōloa เป็นสถานที่ตั้งของไร่อ้อยที่สำคัญแห่งแรกของฮาวาย หมู่บ้านแห่งนี้มักถูกเรียกด้วยชื่อเล่นว่า Old Kōloa Town โดยยังคงมีกลิ่นอายของสมัยศตวรรษที่ 19 หลงเหลืออยู่มาก ด้วยหน้าร้านแบบโบราณและหอศิลป์แปลกตาที่เรียงรายบนถนนหลัก รวมถึงชายหาดอันงดงามในบริเวณใกล้เคียง
หากคุณรู้สึกอยากออกเรี่ยวออกแรง ลองเช่าจักรยานเพื่อปั่นในระยะทาง 3 กิโลเมตร จาก Old Kōloa Town สู่ชายฝั่งริมทะเล หาด Poipu นั้นมีชายฝั่งใสสะอาดและน้ำทะเลสงบเหมาะสำหรับเด็กเล็ก หรือเดินทางต่อไปอีกสักหน่อยเพื่อโต้คลื่นระดับเวิล์ดคลาส และมองหาปลาวาฬหลังค่อมและปลาโลมาที่พบเห็นได้บ่อยครั้งนอกชายฝั่ง สมัครเรียนดำน้ำลึกเพื่อดำน้ำชมแนวปะการัง รวมถึงเต่าทะเลและปลาเขตร้อน
คุณไม่จำเป็นต้องลงไปในทะเลเพื่อเพลิดเพลินกับสถานที่น่าสนใจริมน้ำ คุณสามารถพายเรือคายักหรือล่องแพไปตามแม่น้ำ Wailua พร้อมกับชมทิวทัศน์ป่าฝนขณะล่องไปตามกระแสน้ำได้ หากคุณไม่ได้อยากล่องเรือ ให้ลองไปทัวร์โหนสลิงเพื่อสำรวจทิวทัศน์จากมุมสูง จากนั้นพักผ่อนหลังจากทำกิจกรรมน่าตื่นเต้นที่สปาสักแห่งใน Kōloa ซึ่งให้บริการนวดและทรีตเมนต์ท่ามกลางบรรยากาศป่าฝนอันเป็นเอกลักษณ์ในภูมิภาคนี้
รีสอร์ตหลายแห่งมีการจัดงานเลี้ยงแบบฮาวายตลอดทั้งสัปดาห์ งานเลี้ยงแบบฮาวายเปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสกับวัฒนธรรมท้องถิ่น ทั้งการเต้นระบำและการจัดเลี้ยงแบบดั้งเดิม หากคุณต้องการรับประทานอาหารแบบไม่พลุกพล่าน ให้เลือกร้านอาหารทะเลสดๆ สักร้านใน Old Kōloa Town จากนั้นรับประทานของหวานที่ร้านไอศกรีม Lappert's Ice Cream ซึ่งเป็นร้านในท้องถิ่นที่จำหน่ายไอศกรีมทำสดที่ใช้วัตถุดิบในท้องถิ่น เมืองแห่งนี้มีบรรยากาศยามค่ำคืนอันเงียบสงบ โดยมีบาร์และผับอยู่หลายแห่งแต่ผู้ที่มองหาไนท์คลับที่อึกทึกอาจจะต้องผิดหวัง
Kōloa และ Poipu นั้นอยู่ติดกัน คุณจึงสามารถเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวของทั้งสองเมืองได้อย่างง่ายดาย ลองเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของภูมิภาคด้วยการเดินตามเส้นทาง Kōloa Heritage เส้นทางนี้ทอดยาวระหว่าง Kōloa และ Poipu โดยเป็นทางเดินระยะ 16 กิโลเมตร ที่มีแผ่นป้ายคอยให้ข้อมูลตลอดแนวภูมิประเทศเขตร้อนเพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับการทัวร์แบบเที่ยวเอง
Kōloa อยู่ห่างจากสนามบิน Lihue ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้โดยใช้เวลาขับรถ 30 นาที การขนส่งสาธารณะนั้นมีจำกัด ดังนั้นควรเช่ารถยนต์ มอเตอร์ไซค์ หรือจักรยานเพื่อให้สามารถท่องเที่ยวได้อย่างเต็มที่