หลีกหนีจากฝูงชนของเมืองเวนิสและใช้เวลาท่องเที่ยวหนึ่งวันไปยังเทือกเขาโดโลไมต์โดยแวะพักที่ทะเลสาบซานตาโครเช ทะเลสาบปิเอเวดิคาโดเร ทะเลสาบคอร์ตินา ทะเลสาบออรอนโซ ทะเลสาบมิซูรินา และทะเลสาบคอร์ตินา
ชมทิวทัศน์อันงดงามและมีโอกาสถ่ายภาพอันน่าตื่นตาตื่นใจมากมาย เดินผ่านอุโมงค์ที่มีทัศนียภาพอันตระการตาของหุบเขาและหุบเขาลึกที่ดูราวกับไม่เคยเห็นจากที่ไหนมาก่อน
ทิวทัศน์ในภูมิภาคนี้ถือเป็นหนึ่งในทิวทัศน์ที่สวยงามตระการตาที่สุดในยุโรป
จุดแรกที่แวะคือ ทะเลสาบ Santa Croce เพื่อชื่นชมยอดเขา Dolomites ที่สะท้อนบนผืนน้ำใสราวกับคริสตัล จากนั้นจึงเดินเล่นสักพักและอาจจะดื่มคาปูชิโนสักแก้วที่ Pieve di Cadore
เราขับรถไปที่ทะเลสาบ Auronzo ที่งดงาม ผ่านหมู่บ้านบนภูเขาที่สวยงามตระการตา
เดินทางต่อไปยัง ทะเลสาบ Misurina ซึ่งคุณจะได้มีโอกาสเดินเล่นรอบทะเลสาบ พร้อมกับพักรับประทานอาหารกลางวัน (ไม่บังคับ) และชื่นชมยอดเขา Tre Cime di Lavaredo พร้อมฉากหลังอันงดงามของ Sorapis และ Marmole
มิฉะนั้น ให้ขึ้นเก้าอี้กระเช้าลอยฟ้าแบบพาโนรามาเพื่อไปยัง “Col del Varda” ซึ่งอยู่ที่ความสูง 2,106 เมตร (ไม่รวมตั๋ว ชำระ ณ จุดชม) และสูดอากาศบริสุทธิ์บนภูเขา คุณจะได้สัมผัสกับทัศนียภาพอันน่าประทับใจของเทือกเขาโดโลไมต์มากยิ่งขึ้น
หลังรับประทานอาหารกลางวัน (ไม่รวมในแพ็คเกจ) ในที่สุดเราก็จะมาถึงจุดแวะสุดท้าย: Cortina d'Ampezzo ที่ได้รับฉายาว่า “ไข่มุกแห่งเทือกเขาโดโลไมต์” คุณจะมีเวลาว่างประมาณ 30 นาทีเพื่อเดินเล่นรอบเมืองและชมทิวทัศน์อันงดงามของภูเขา
เมือง Cortina d'Ampezzo จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวในปี 2026 ซึ่งเป็นการแข่งขันกีฬานานาชาติชื่อดังที่รู้จักกันในชื่อ Milano – Cortina 2026
ด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความสวยงามและกล้องที่เต็มไปด้วยความทรงจำอันน่าจดจำ จากนั้นเราจะขึ้นรถเดินทางกลับเมืองเวนิส
กำหนดการเดินทาง :
ทะเลสาบซานตาโครเช (5/10 นาที)
Pieve di Cadore (30 นาที)
ทะเลสาบออโรนโซ (15/20 นาที)
ทะเลสาบมิซูรินา (ประมาณ 2 ชั่วโมง) - พักรับประทานอาหารกลางวัน
Cortina d'Ampezzo (30 นาที)