St. Isaac’s Cathedral ซึ่งมีหลังคาโดมสีทองตระหง่าน เป็นสถานที่สำคัญที่ต้องมาชื่นชม และเป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นของนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก วิหารแห่งนี้ ซึ่งเป็นศาสนสถานแห่งสำคัญมานานนับหลายร้อยปี เป็นสถานที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวผู้มาเยือนนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กมากที่สุดในปัจจุบัน สำรวจการตกแต่งอันสวยงามอลังการ และถ่ายภาพจากจุดชมวิวชั้นเลิศ
แม้ว่าวิหารแห่งนี้จะเป็นที่รู้จักทั่วโลกในด้านโครงสร้างโออ่าสง่างามอย่างที่เห็นในปัจจุบัน แต่แท้จริงแล้ว วิหารแห่งนี้ได้ผ่านการก่อสร้างใหม่มานับครั้งไม่ถ้วนในช่วงประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 300 ปีของวิหาร โครงสร้างหลังแรกที่สร้างขึ้นจากไม้นั้นพังทลายลงเนื่องจากน้ำท่วม และโครงสร้างหลังถัดมาก็โดนไฟไหม้ หลังจากนั้น การสวรรคตของจักรพรรดินีแคทเธอรีนที่ 2 และจักรพรรดิพอลที่ 1 องค์อุปถัมภ์ของวิหารนี้ รวมไปถึงการเสียชีวิตของอันโตนีโอ รีนัลดี สถาปนิกผู้ออกแบบ ได้ส่งผลให้วิหารแห่งนี้ทรุดโทรมอย่างหนัก ออกุสเต มอนแฟร์แรนด์ สถาปนิกชาวฝรั่งเศส ได้เข้ามารับหน้าที่แทน และวิหารที่เห็นในปัจจุบันก็ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงระหว่างปี 1818 ถึง 1848
มองหลังคาโดมโดดเด่นของวิหาร ซึ่งเคลือบทองคำล้ำค่าหนักกว่า 100 กิโลกรัม โครงสร้างภายนอกส่วนอื่นๆ ของวิหารแห่งนี้ก็น่าประทับใจเช่นเดียวกัน ยืนตรงทางเข้าที่มีหลังคาโค้งข้างเสาแกรนิตสีแดงใหญ่โตโอ่อ่า ซึ่งเสาแต่ละต้นมีน้ำหนักมากถึง 80 ตัน อาคารวิหารยังตกแต่งด้วยหินอ่อนงดงามสง่า และผนังแกรนิตก็ประดับด้วยหินแวววาว
ทางเข้าที่มีหลังคาโค้งประดับประดาด้วยหน้ามุขรูปหล่อทองแดงประณีตงดงาม ซึ่งสลักปั้นโดย Ivan Vitali และ Francois Lemaire มองหาภาพสะท้อนเรื่องราวการฟื้นคืนชีพของพระเยซูบนหน้ามุขด้านทิศเหนือ และภาพของนักบุญไอแซคกำลังประทานพรแก่จักรพรรดิธีโอโดเซียสที่หน้ามุขด้านทิศตะวันตก
เข้าไปด้านในวิหาร ซึ่งตกแต่งด้วยงานวิจิตรศิลป์จำนวนมากมายนับไม่ถ้วน สำรวจภาพวาดพระนางมารีย์พรหมจารีพร้อมเหล่าบริวารสิ่งมีชีวิตบนสรวงสวรรค์ ซึ่งมีขนาดใหญ่ถึง 800 ตารางเมตร จากฝีมือของ Karl Briullov วิหารยังมีผลงานที่สะท้อนภาพการพิพากษาครั้งสุดท้าย ซึ่งสื่อความหมายถึงพระเยซูคริสต์ที่กำลังมองลงมายังศาสนิกชนที่มายังโบสถ์ด้วย
ปีนบันได 300 ขั้นเพื่อขึ้นไปยังระเบียงของวิหาร และชื่นชมทิวทัศน์งดงามของส่วนอื่นๆ ของเมือง ทัศนียภาพนั้นตระการตามากจนหลายคนมายังวิหารแห่งนี้เพื่อชมทิวทัศน์นี้โดยเฉพาะ
นั่งรถไฟใต้ดินไปยังสถานี Admiralteyskaya และจากที่นั่น เดินไปยัง St. Isaac’s Cathedral ได้โดยง่าย ปัจจุบัน วิหารแห่งนี้ไม่ค่อยจัดพิธีทางศาสนา แต่เปิดให้เข้าชมทุกวัน ยกเว้นวันพุธ มีค่าเข้าชมโบสถ์และระเบียงแยกต่างหาก