แหลมคอร์นวอลล์เป็นหัวแหลมโขดหินตะปุ่มตะป่ำเล็กๆ ที่มีเส้นทางเดินมากมาย และมองเห็นวิวมหาสมุทรแอตแลนติกที่ถั่งโถมเกลียวคลื่นเข้ามา แหลมที่เคยเป็นเขตเหมืองแร่ดีบุกสำคัญแห่งนี้ ยังคงมีเศษซากอุตสาหกรรมจากยุคดังกล่าว โดยประกอบเป็นทิวทัศน์เหมืองแร่คอร์นวอลล์และเวสต์เดวอนที่ขึ้นบัญชีขององค์การยูเนสโก เดินตามเส้นทางเดินต่างๆ ที่ตัดผ่านพื้นที่ดินปนทรายบนชายฝั่งไปยังพิพิธภัณฑ์เหมืองแร่
เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ยุคต้นของแหลมแห่งนี้ ซึ่งมีชื่อในภาษาคอร์นวอลล์ว่า Kilgodh Ust ที่แปลว่าหลังห่านที่เซนต์จัสต์ ชื่อนี้หมายถึงรูปทรงของหัวแหลม
เริ่มออกเดินทางบนเส้นทาง St. Just Coastal Walk ที่วนเป็นวงกลม ซึ่งใช้เวลาเดินทางราวๆ 2 ชั่วโมง เส้นทางเดินนี้มองเห็นทัศนียภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจของมหาสมุทรที่ปั่นป่วน และอ้างว้างในวันส่วนใหญ่ นักเดินสามารถมองเห็นเกาะบริซันส์ ซึ่งมียอดเขาคู่ที่ตั้งอยู่นอกชายฝั่งจากบริเวณแหลม ในวันที่อากาศแจ่มใส นักเดินอาจมองเห็นหมู่เกาะซิลลีในพื้นหลังได้อีกด้วย นำกล้องส่องทางไกลไปส่องดูนกกาภูเขาคอร์นวอลล์ ซึ่งสามารถแยกแยะนกสีดำเหล่านี้ได้จากจงอยปากสีแดงสะดุดตา
สำรวจเพิ่มเติมเกี่ยวกับอุตสาหกรรมเหมืองแร่ดีบุกสมัยอุตสาหกรรมที่ 19 ที่บ้านของเคาท์โบทัลแล็ค ซึ่งมีนิทรรศการเกี่ยวกับเหมืองแร่และประวัติศาสตร์ธรรมชาติในบริเวณนี้ เลี้ยวขวาออกจากทำเนียบท่านเคาท์มาบรรจบเส้นทาง South West Coast Path เส้นทางนี้ตัดผ่านปราสาทบนยอดผาในยุคเหล็ก กองหินยุคสัมฤทธิ์ และป้ายที่เขียนเตือนว่า “ทางเข้าเหมือง อันตรายถึงแก่ชีวิต” เมื่อเส้นทางวกเข้ามาในแผ่นดิน มองหาปล่องระบายควันสูงของโรงงานผลิตสารหนูของเคนิดแจ็ค
มาออกรอบสักหน่อยที่สนามกอล์ฟ Cape Cornwall Golf and Leisure หรือไปเที่ยวชมโรงเรียน Cape Cornwall ซึ่งได้รับสถานะที่น่าภูมิใจว่าเป็นโรงเรียนสุดเขตแดนตะวันตกบนแผ่นดินใหญ่ของสหราชอาณาจักร สำหรับเดย์ทริป เดินทางลงไปทางใต้ไปที่แลนด์สเอนด์ สถานีปลายทางอันโด่งดังของเส้นทางที่ยาวที่สุดในสหราชอาณาจักร ซึ่งยาวไปจรดจุดเหนือสุดของสกอตแลนด์
แหลมคอร์นวอลล์อยู่ในภูมิภาคสุดเขตตะวันตกของคอร์นวอลล์ จากเซนต์จัสต์ เดินไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนืออีก 30 นาทีเพื่อมาที่แหลมนี้ เข้าชมแหลมได้ฟรี และมีที่จอดรถข้างๆ บ้านของเคาท์โบทัลแล็ค