เดินทางย้อนเวลาไปสู่อาณาจักรโมกุลในอดีต ณ สวนญาดาวินทร์ ซึ่งอวดโฉมการออกแบบอันงดงามตามเอกลักษณ์การตกแต่งสวนในแบบฉบับของยุคโมกุลดั้งเดิม เดินเล่นบนผืนดินที่รายล้อมด้วยระเบียงกลางแจ้ง นั่งปิกนิกบนหญ้าเขียวขจี และดื่มด่ำบรรยากาศสุดแสนโรแมนติกของน้ำพุที่ส่องแสงสลัวในยามรัตติกาล
สวนญาดาวินทร์ออกแบบในศตวรรษที่ 17 โดยนายนวัพ ฟะได ข่าน (Nawab Fadai Khan) สถาปนิกผู้เลื่องชื่อแห่งยุคโมกุล สวนแห่งนี้ออกแบบตามรูปแบบโมกุลดั้งเดิมอย่างแท้จริง และมีการจัดวางตำแหน่งสวนไว้รอบๆ ร่องน้ำที่ไหลไปตามระเบียงกลางแจ้งต่างๆ ในสัดส่วนที่สมดุลพอดีกัน โดยระเบียงแต่ละหลังประกอบด้วยอาคารปราสาท น้ำพุ หรือแปลงจัดดอกไม้ แรกเริ่มเดิมทีสวนแห่งนี้ใช้เป็นสถานที่จัดงานสโมสรสันนิบาตของราชสำนัก
เดินเข้าไปยังสวนผ่านระเบียงที่สูงสุดที่ซึ่งคุณจะเดินผ่านพระบรมมหาราชวังชีช์มาฮาล (Shish Mahal) ถัดกันนั้นคือพระราชวังฮาวามาฮาล (Hawa Mahal) หรือที่เรียกอีกชื่อว่า พระราชวังแห่งสายลม ส่วนบนระเบียงที่ 2 ด้านล่างคือ รางมาฮาล ซึ่งเป็นทางเดินที่มีช่องประตูทรงโค้งขนาบข้างไปตลอดทาง จากระเบียงลอยนี้ ให้มองไปที่สวนที่ทอดตัวยาวตรงเบื้องล่างของคุณ
เดินต่อลงไปด้านล่างบนพื้นดินเพื่อมุ่งหน้าสู่จาลมาฮาล (Jal Mahal) หรือพระราชวังแห่งสายน้ำ ซึ่งมีสระน้ำทรงสี่เหลี่ยมอันงดงาม หากต้องเห็นวิวอันน่าประทับใจของสถาปัตยกรรมยุคโมกุล ให้มองหันหลังกลับไปที่พระบรมมหาราชวังชีช์มาฮาลจากตรงนั้น ซึ่งคุณจะยังได้เห็นภาพอาคารภายนอกสีขาวสะท้อนเป็นเงาในร่องน้ำด้านล่างอีกด้วย
นั่งลงที่อัฒจันทน์กลางแจ้งใกล้ด้านล่างสุดของสวน พลางเพลิดเพลินกับบรรยากาศสวยงามโดยรอบ แวะไปที่เรือนเพาะชำต้นไม้เพื่อดูหน่อต้นไม้ ซึ่งจะเติบโตเป็นดอกไม้ที่ใช้ตกแต่งสวนในอนาคต เรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการจัดดอกไม้แบบอิเกะบะนะ (ikebana) ซึ่งเป็นศิลปะการจัดดอกไม้จากแดนอาทิตย์อุทัย ณ สวนญี่ปุ่น
เลาะเลี้ยวไปตามผืนดินในยามราตรี เพื่อเฝ้ามองแสงที่ฉายส่องเรืองรองในน้ำพุ อาคาร และบริเวณต่างๆ ในสวน
สวนญาดาวินทร์อยู่ห่างจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองจันดิการ์บนทางหลวงอัมบาลา-ชิมลา (Ambala-Shimla) ประมาณ 22 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่ยังให้คุณได้สัมผัสกับดอกไม้งดงามบานสะพรั่ง ซึ่งเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ตอนเช้าจนถึงช่วงพลบค่ำ มีค่าเข้าชมด้วย