เริ่มออกเดินทางด้วยการเดินเท้าหรือเช่าจักรยานและสำรวจถนนที่มีสถาปัตยกรรมน่าประทับใจของเตร็นโต ค้นพบความสมบูรณ์ของอนุสาวรีย์แห่งยุคกลางและยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาที่ล้อมกรอบด้วยฉากหลังของทิวเขาที่โดดเด่น สัมผัสการผสมผสานของอิทธิพลการทำอาหารสไตล์อิตาลีและออสเตรีย และไปชิมไวน์ที่โรงบ่มไวน์ในบริเวณใกล้เคียง
ซื้อเตร็นโตการ์ดเพื่อให้สามารถเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ พิพิธภัณฑ์ และใช้งานระบบขนส่งสาธารณะได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงรับส่วนลดจากร้านอาหารต่างๆ ด้วย คุณสามารถขยายเวลาการใช้บัตรได้นานถึง 3 เดือนโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
เริ่มต้นการเดินทางของคุณที่ จัตุรัสเปียซซา เดล ดูโอโม ซึ่งเป็นจัตุรัสอันรุ่งโรจน์ที่เรียงรายไปด้วยพาลาซโซและร้านคาเฟ่ริมทาง สำรวจ น้ำพุ Fountain of Neptune สไตล์บาโรก และชื่นชมจิตรกรรมฝาผนังปูนเปียกในยุคกลางที่จัดแสดงอยู่ภายใน วิหาร San Vigilio ถนนต่างๆ แผ่ขยายออกมาจากจัตุรัสเหมือนใยแมงมุม โดยผ่านทางเดินที่มีร้านค้า ลาน และคฤหาสน์ที่ประดับด้วยจิตรกรรมฝาผนังปูนเปียก เช่น Casa Cazuffi-Rella เยี่ยมชมสถานที่สำคัญทางศาสนา ซึ่งรวมถึง โบสถ์ Santa Maria Maggiore และ โบสถ์ San Lorenzo แห่งศตวรรษที่ 12
เรียนรู้ประวัติศาสตร์โบราณของเตร็นโตที่แกลเลอรี่และพิพิธภัณฑ์ของเมือง ชมภาพวาดเกี่ยวกับนักบวชที่ พิพิธภัณฑ์ Tridentino Diocesan และศิลปะในศตวรรษที่ 19 และ 20 ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่และร่วมสมัย แห่งเตร็นโตและโรเวเรโต สนุกกับงานแสดงแบบอินเทอร์แอคทีฟที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ MUSE ชมการจัดแสดงด้านศิลปะและโบราณคดีในห้องโถงของ Castello del Buonconsiglio
ท่องเที่ยวในระดับที่ต่ำกว่าถนนเพื่อชมซากของเมืองในยุคโรมันที่ Sass Underground Archaeological Space ผ่อนคลายในขอบเขตที่เงียบสงบของสวนสาธารณะหรือนั่งกระเช้าไฟฟ้าไปยังจุดชมวิวที่ Belvedere di Sardagna
เตร็นโตมีร้านสำหรับอาหารและเครื่องดื่มให้เลือกหลากหลายนับตั้งแต่โรงเบียร์สไตล์ออสเตรียไปจนถึงคาเฟ่ที่เชี่ยวชาญในแอปเปิ้ลสตรูเดิลและร้านอาหารสไตล์อิตาลี ใช้เตร็นโตการ์ดเพื่อรับตัวอย่างสปาร์กลิงไวน์ในท้องถิ่นอย่าง Trentodoc ที่ร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการ เข้าร่วมทัวร์ที่มีบริการนำเที่ยวเพื่อชมแหล่งผลิตไวน์ที่ตั้งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองโดยใช้เวลาขับรถไม่นาน
เตร็นโตอยู่ห่างจาก มิลาน ประมาณ 3 ชั่วโมง และห่างจาก เวนิส 2 ชั่วโมง โดยรถยนต์ ทำเลที่ตั้งของเมืองที่อยู่ใจกลางเขตภูเขาเตร็นติโนนี้ปูทางไปสู่การผจญภัยในฤดูร้อนและฤดูหนาวที่ไม่มีที่สิ้นสุด ปั่นจักรยาน เดินป่า เล่นสกีและสโนว์บอร์ด และชมวิวพาโนรามาอันงดงามได้ที่ Monte Bondone และ Valle dei Laghi
