เดิมทีชาวบ้านเรียกแหลมพรหมเทพว่า "แหลมเจ้า" นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาที่นี่ในยามเย็น เพื่อรอชมพระอาทิตย์ค่อยๆ เคลื่อนคล้อยลงสัมผัสกับผิวน้ำก่อนที่จะลับฟ้าหายไปในทะเล จากแนวเขาของแหลมพรหมเทพซึ่งมีความสูง 60 เมตรจากระดับน้ำทะเล สามารถมองเห็นหาดในหานได้อย่างชัดเจน รวมถึงเกาะแก้วที่อยู่ห่างไปไม่ไกล แหลมพรหมเทพจะเริ่มคึกคักตั้งแต่ช่วงบ่าย เพราะนักท่องเที่ยวต่างทยอยกันมาจับจองที่นั่งรอชมพระอาทิตย์ตก
จากลานจอดรถของแหลมพรหมเทพ คุณต้องเดินผ่านศาลพระพรหมและประภาคารกาญจนาภิเษกเพื่อไปยังจุดชมวิว ประภาคารกาญจนาภิเษกนี้สร้างขึ้นในปี 2539 ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ภายในประภาคารมีพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็กที่จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับการเดินเรือ หากเดินต่อขึ้นไปยังดาดฟ้าก็สามารถชมวิวทิวทัศน์ของแหลมพรหมเทพโดยรอบได้ชัดเจน
จากประภาคารจะมีทางเดินลงเขาเพื่อไปยังปลายแหลม เส้นทางการเดินจะค่อนข้างชัน ควรใช้ความระมัดระวัง แต่ถ้าคุณมีแรงเหลือ ก็คุ้มค่ากับการเดินลงไปเพื่อชมวิวที่สวยงาม
นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาถึงเร็วมักจะแวะสักการะศาลพระพรหมที่รายล้อมไปด้วยรูปปั้นช้างจำนวนนับร้อย บ้างก็เดินช้อปปิ้งที่ตลาดเพื่อเลือกซื้อสินค้าที่มีให้เลือกมากมายตั้งแต่เครื่องประดับที่ทำจากเปลือกหอย ผ้าโสร่ง ชุดว่ายน้ำ และของกิน เพื่อติดไม้ติดมือกลับไปฝากคนที่บ้าน
ยิ่งใกล้เวลาพระอาทิตย์ตกดิน แหลมพรหมเทพยิ่งคึกคักไปด้วยผู้คน นอกจากนักท่องท่องเที่ยวแล้ว บรรดาพ่อค้าแม่ค้าและนักดนตรีเปิดหมวกก็มาร่วมเพิ่มบรรยากาศให้มีสีสันยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อชมพระอาทิตย์ตกดินเสร็จ ลองไปรับประทานอาหารทะเลที่ร้านอาหารแหลมพรหมเทพ พร้อมนั่งชิวท่ามกลางลมทะเลเย็นๆ
การเดินทางมายังแหลมพรหมเทพนั้นใช้เวลาขับรถจากหาดป่าตองเพียง 30 นาที แต่ถ้าหากไม่อยากปวดหัวกับการหาที่จอดรถ เรียกรถสองแถวรับจ้างไปจะสะดวกกว่า